วันนี้ (17 ก.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์การพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล ในการโหวตนายกฯ รอบ 2 ว่า ต้องรอการพูดคุยระหว่าง 2 พรรค
“ผมมองว่าปัญหาปากท้องและปัญหาเศรษฐกิจประชาชนเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าเราไม่รีบเจรจาและจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหา ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ และสถานการณ์ก็บีบบังคับให้จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด”
เมื่อถามว่าพร้อมหรือไม่ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ หาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ไม่ผ่านการโหวตรอบ 2 นายเศรษฐา ตอบว่า “ถ้าไม่พร้อมก็คงไม่มีรายชื่อผมเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะเป็นในฐานะแกนนำ หรือ พรรคร่วมรัฐบาล ผมได้รับมอบหมายให้มาดูแลเรื่องเศรษฐกิจ”
เมื่อถามว่าหากสูตรจัดตั้งรัฐบาลไม่มีพรรคก้าวไกล พร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่มีการพูดคุยกัน และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ได้ชี้แจง หากมีความเห็นแตกต่างกันใน 8 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งคณะกรรมการบริหาร(กก.บห.) พรรค ก็ต้องกลับมาพูดคุยกัน เพราะเราก็มีแคนดิเดตนายกฯ ถึง 3 คน ดังนั้นต้องให้เกียรติกรรมการบริหาร ตนคงไม่ก้าวล่วง
เมื่อถามว่าหากสมการตั้งรัฐบาลมีพรรคอื่นเข้ามานอกเหนือจาก 8 พรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมจะรับนายกฯ หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังเร็วเกินไป วันนี้เป็นเรื่องของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลก่อน
เมื่อถามย้ำว่าไม่ว่าจะเป็นสมการใด หากกรรมการบริหารพรรคมีมติพร้อมที่จะทำตามหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องไปว่ากันในตรงนั้น เพราะมีหลักการหลายอย่างที่ต้องมาคุยกัน