นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 1 ใน 13 ส.ว. ที่โหวตเห็นชอบให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงทิศทางการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ว่า ยังคงยึดในหลักการเดิมคือ พร้อมสนับสนุนพรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ และหากพรรคเพื่อไทย(พท.) จะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคฯ ให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณา ตนก็พร้อมลงมติให้ความเห็นชอบ
“มั่นใจด้วยว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ด้วย จะยิ่งทำให้การจัดตั้งรัฐบาลประสบผลสำเร็จ เพราะจะได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.จำนวนมาก”
ส่วนหากพรรคก้าวไกล ยังคงอยู่ร่วมรัฐบาลด้วย แต่ลดเงื่อนไขการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.อยู่หรือไม่ นายวันชัย ตอบว่า การลงมติของ ส.ว.จะเปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะสำเร็จได้ตามเป้าหมายหรือไม่ เพราะแค่การเปลี่ยนแปลงพรรคแกนนำ ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว
และเห็นว่า พรรคเพื่อไทย มีศักยภาพมากกว่าพรรคก้าวไกล ทั้งการประสานติดต่อพรรคการเมือง และ ส.ว. จึงเชื่อว่า จะทำให้มีพรรคพวกที่ให้ความร่วมมือมากกว่า
“ผมมั่นใจว่าในการลงมติเลือกนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. มากกว่า 13 เสียง และหากลดเงื่อนไขต่างๆ ลงด้วย ก็จะยิ่งได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้น เพราะจากพรรคพวก และจากผลการประชุมครั้งที่ผ่านมา สะท้อนชัดเจนว่า ถ้าไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลด้วย ส.ว.ก็ไม่น่าจะมีปัญหานายเศรษฐา" นายวันชัย กล่าว