เคาะ 4 ส.ค. นัดประชุมรัฐสภาโหวตเลือกนายกฯ - แก้รัฐธรรมนูญ ม.272

27 ก.ค. 2566 | 12:08 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ค. 2566 | 12:15 น.

“วันนอร์”เคาะส่งหนังสือด่วนมาก เรียกประชุมรัฐสภา 4 ส.ค.นี้ พิจารณา 2 วาระร้อน “โหวตเลือกนายกฯ” และ “แก้รัฐธรรมนูญ ม.272”

วันนี้(27 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการรัฐสภา  ได้ออกหนังสือด่วนมาก ที่ สผ 0014/ร 5  เรื่อง ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)  มีเนื้อหาระบุว่า 

เนื่องด้วยประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 3 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันศุกร์ที่ 4  สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 09.30น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารัฐสภา ถนนสามเสน  แขวงถนนนครไชยศรี  เขตดุสิต กทม. โดยมีวาระเร่งด่วน 2 เรื่อง คือ 

1.พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 

2. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (ยกเลิกมาตรา272)  ที่นายชัยธวัช ตุลาธน  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับคณะ เป็นผู้เสนอ

                             เคาะ 4 ส.ค. นัดประชุมรัฐสภาโหวตเลือกนายกฯ - แก้รัฐธรรมนูญ ม.272

สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 อยู่ในบทเฉพาะกาล โดยบัญญัติว่า ในระหว่างห้าปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ การให้ ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้ดําเนินการตามมาตรา 159

เว้นแต่ การพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 159 วรรคหนึ่ง ให้กระทําในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา และมติที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 วรรคสาม ต้องมีคะแนนเสียง มากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา

ในระหว่างเวลาตามวรรคหนึ่ง หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ใน บัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกัน จํานวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา ขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมือง แจ้งไว้ตามมาตรา 88 

ในกรณีเช่นนั้น ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ ทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้ดําเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อท่ีพรรคการเมือง แจ้งไว้ตามมาตรา 88 หรือไม่ก็ได้