วันโหวตนายกฯ “จเด็จ อินสว่าง” จ้องถล่มคุณสมบัติ “เศรษฐา ทวีสิน”

01 ส.ค. 2566 | 08:49 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2566 | 08:56 น.

ส.ว.“จเด็จ อินสว่าง” จ้องถล่มคุณสมบัติ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เหตุยังมีข้อน่าสงสัย หลัง “ชูวิทย์” จับพิรุธปมเลี่ยงภาษี และ ปมหนุนแก้ ม.112

วันนี้(1 ส.ค. 66) นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กล่าวถึงการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายสร้างสตอรี่ แทงข้างหลัง ถีบพรรคนั้นพรรคนี้ แต่ ส.ว. มีหน้าที่ต้องโหวตเลือกนายกฯ โดยยึดหลักรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ที่ผู้ถูกเสนอชื่อต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นายจเด็จ กล่าวว่า ชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ที่จะถูกเสนอชื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาเป็นผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 ส.ค.นั้น ยังมีข้อน่าสงสัย ตามที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษี 

“ถ้าเป็นเช่นนี้ ส.ว.จะรับรองได้อย่างไร ไม่ใช่ใครก็ได้ที่ได้เสียงข้างมากแล้ว ส.ว.ต้องเลือก แต่ ส.ว.ต้องเลือกนายกฯ ที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น การโหวตเลือกนายกฯ วันดังกล่าว ประธานรัฐสภา ต้องให้นายเศรษฐา แสดงวิสัยทัศน์ เพื่อให้สมาชิกรัฐสภามีโอกาสซักถาม จะให้ ส.ว.เลือก โดยไม่แสดงวิสัยทัศน์ไม่ได้” 

นายจเด็จ กล่าวด้วยว่า  ถ้านายเศรษฐา ไม่แสดงวิสัยทัศน์ใด ๆ ส.ว.จะเป็นฝ่ายถามเองถึงแนวคิดการบริหารประเทศ ทั้งเรื่องการแก้ไข ม.112 เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อให้มีความชัดเจนประเด็นเหล่านี้ ก่อนตัดสินใจลงมติ เพราะ ส.ว.มีหน้าที่ต้องเลือกคนดี ที่ไม่มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 


“เชื่อว่าการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค. ไม่น่าจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย จะมีปัญหาถกเถียงพิจารณาเรื่องรัฐธรรมนูญ มาตรา160 หนักเข้าอาจต้องส่งไม้ต่อไปที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคอันดับ 3 
ในที่สุดอาจนำไปสู่การโหวตนายกฯ ตามมาตรา 272 วรรคสอง หรือนายกฯ คนนอก ขณะนี้พรรคก้าวไกลยังเกาะพรรคเพื่อไทยอยู่ แม้จะยอมไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็จะโหวตให้พรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ ถ้าทำได้ก็ทำไปเลย แหกตา ส.ว. ไม่เป็นไร แต่อย่าแหกตาประชาชน” นายจเด็จ ระบุ