วันนี้(16 ส.ค. 66) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงมติของศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่รับคำร้องผู้ตรวการแผ่นดินไว้พิจารณา กรณีรัฐสภามีมติห้ามเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ของพรรคก้าวไกล โหวตเลือกเป็นนายกฯ ในรอบที่ 2 ว่า มติที่ออกมานั้นชี้ชัดว่าผู้ที่ยื่นคำร้องไม่ใช่ผู้ที่ถูกกระทบสิทธิ เสรีภาพโดยตรง
ดังนั้น นายพิธา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ที่ถูกกระทบสิทธิ ยังมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาในประเด็นมติของรัฐสภา วันที่ 19 ก.ค. 2566 ได้
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า นายพิธา ควรเสียสละไม่ยื่นคำร้อง เพื่อให้การเดินหน้าโหวตนายกฯ สามารถดำเนินการต่อไปได้ ส่วนจะโหวตนายกฯ คนต่อไป หรือ โหวต นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย ได้หรือไม่นั้น เป็นคนละเรื่อง
“ผมไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลจะให้ นายพิธา ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่หากทำอาจจะทำให้การโหวตนายกฯ วันที่ 22 ส.ค.นั้น ถูกชะลอออกไปอีก และจะทำให้การเมืองไทยติดกับดัก ดังนั้น หาก นายพิธาไม่ยื่นคำร้อง จะทำให้การโหวตนายกฯ เดินหน้า
แต่หากหาเหตุเพื่อให้ยื้อการโหวตไปจน ส.ว.หมดวาระและหมดอำนาจเลือกนายกฯ ผมขอชี้แจงว่าประเด็นดังกล่าวไม่เกี่ยวกับ ส.ว. แต่อยู่ที่พรรคการเมือง และ ส.ส. 500 คนจะตกลงกันเอง ส.ว.เป็นแค่แขกที่ถูกเชิญไปร่วมงานเท่านั้น” นายสมชาย ระบุ