ในการเลือกตั้ง 2566 นี้ สนามเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่กำหนดให้มี 33 เขตเลือกตั้ง มีส.ส.ได้ 33 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูจะมีความพร้อมมากกว่าพรรคการเมืองอื่นในการส่งผู้สมัคร
เพราะเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา พรรค ปชป. นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ร่วมกันเปิดตัว 33 ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ภายใต้สโลแกน “ประชาธิปัตย์ = ประชาชน DEM FOR ALL” ไปอย่างคึกคัก ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น)
น.ส.วทันยา กล่าวตอนหนึ่ง โดยขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนและรัก พรรคประชาธิปัตย์ตลอดมา แม้จะมีครั้งหนึ่งที่วอกแวก นอกใจไปเลือกพรรคอื่นบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวัง
“วันนี้ขอให้เรากลับมาบ้านหลังเดิม กลับมาช่วยกันทำบ้านหลังนี้ให้เข้มแข็ง อบอุ่น และยิ่งใหญ่ไปกว่าเดิม เพราะบ้านหลังนี้ คือ บ้านของประชาชนอย่างแท้จริง และเลือดประชาธิปัตย์ยังคงไหลเวียนอยู่ใน คน กทม. เสมอ”
เช่นเดียวกับ ศ.ดร.สุชัชวีร์ ที่ระบุว่า วันนี้ผู้สมัคร 33 เขต 33 คน คือ ตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่หนีไปไหน เราอยู่ร่วมกันมา 77 ปี และยังคงอยู่ที่นี่กับพวกเราตลอดไป และทั้ง 33 คน มีความมุ่งมั่น มีพลัง อยากทำงานเพื่อกรุงเทพฯ และบ้านเมือง
“ผมขอให้พี่น้องประชาชนให้โอกาส 33 เขต 33 คน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ คือ ประชาชน และประชาธิปัตย์พิสูจน์แล้วว่า เราคือพรรคที่เกิดมาเพื่อประชาธิปไตย และผมจะอยู่ที่นี่ อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ อยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนทุกเขตทุกคน” ศ.ดร.สุชัชวีร์ ระบุ
ด้าน นายองอาจ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯ ที่ได้เปิดตัวผู้สมัคร 33 คน 33 เขต เพื่อเดินหน้าสู่ชัยชนะ ทุกคนมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้พิจารณามาอย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อมาเป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชนทั้งกรุงเทพฯ
ขณะที่ นายจุรินทร์ ได้ปราศรัยโดยย้ำอุดมการณ์พรรค ปชป. ไม่เคยเปลี่ยน ชู 3 จุดยืน ประกอบด้วย
1. นำพรรคเป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนตราบชั่วลูกหลาน
2. ทำประชาธิปไตยสุจริต- ท้องอิ่ม
3. สนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ไม่แตะหมวดสถาบันกษัตริย์ ไม่แก้ ม.112 พร้อมประกาศ ล้างธนกิจการเมือง
“ขอบคุณพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ทุกคนที่มาร่วมทัพกับประชาธิปัตย์ ขอขอบคุณอดีต ขอบคุณปัจจุบัน และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับอนาคต ที่เราจะเกี่ยวก้อยจับมือไปด้วยกัน เพื่อพาประชาธิปไตย พาประเทศของเรา และพาการเมืองสะอาด การเมืองท้องถิ่นให้คนกรุงเทพฯ ได้พบกับความสุข ความเจริญรุ่งเรืองต่อไป ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้กับพวกเราชาวประชาธิปัตย์ทุกคน” หัวหน้าพรรค ปชป. ระบุ
สำหรับพื้นที่ กทม. ในการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2562 มี 30 เขต 30 ที่นั่ง ปรากฏว่า มี 3 พรรคการเมือง ที่ได้ ส.ส.แบ่งเก้าอี้กันไป ประกอบด้วย พลังประชารัฐ 12 ที่นั่ง เพื่อไทย 9 ที่นั่ง และ อนาคตใหม่ 9 ที่นั่ง โดยที่ ประชาธิปัตย์ สูญพันธุ์ ไม่ได้แม้แต่ที่นั่งเดียว
ย้อนไปดูผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 50 เขต ครั้งก่อน ประชาธิปัตย์ ชนะ 45 ที่นั่ง แต่ครั้งล่าสุด ได้มา 9 ที่นั่ง รวมคะแนนทั้งหมด 348,852 คะแนน
ส.ก.ที่ประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง ประกอบด้วย
เขต 8 ป้อมปราบศัตรูพ่าย นิภาพรรณ จึงเลิศศิริ ได้ 5,690 คะแนน
เขต 13 สัมพันธวงศ์ พินิจ กาญจนชูศักดิ์ ได้4,613 คะแนน
เขต 16 บางกอกใหญ่ วิรัช คงคาเขตร ได้ 9,329 คะแนน
เขต 18 คลองสาน สมชาย เต็มไพบูลย์กุล ได้ 7,703 คะแนน
เขต 20 บางกอกน้อย นภาพล จีระกุล ได้ 14,573 คะแนน
เขต 21 บางขุนเทียน สารัช ม่วงศิริ ได้ 34,158 คะแนน
เขต 25 บางพลัด พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิต ได้ 12,575 คะแนน
เขต 32 ประเวศ ธนวัฒน์ เชิดชูกิจกุล ได้22,971 คะแนน
เขต 50 บางบอน ณรงค์ศักดิ์ ม่วงศิริ ได้ 11,610 คะแนน
นอกจากสนามเลือกตั้งภาคใต้ ที่พรรค ปชป. หมายมั่นจะกวาดเก้าอี้ ส.ส.ให้ได้เป็นกอบเป็นกำ 40 ที่นั่งขึ้นไปแล้ว สนามเลือกตั้ง กทม. ก็เป็นอีกสนามที่คาดหวังจะได้ ส.ส.กลับมาให้มากที่สุด จากเดิมที่ไม่ได้เลยแม้แต่ที่นั่งเดียว
เลือกตั้ง 2566 สนามนี้ถือเป็นอีกสนาม ที่เดิมพันใหญ่พรรค ปชป. ยุคที่มี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค ว่า ผลการเลือกตั้งทั้งประเทศจะทำให้ได้ส.ส.มากกว่า 52 ที่นั่ง จากการเลือกตั้งในปี 2562 หรือไม่
เพราะหากได้ส.ส.รวมน้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ก็อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่เกิดขึ้นใน ปชป. แน่นอน