‘เวียดเจ็ท’จ่อเข้าตลาดหุ้นนอก แผนสูงดึงทุนต่างชาติเสริมแกร่งธุรกิจการบิน

01 มิ.ย. 2560 | 08:00 น.
“เวียดเจ็ทแอร์” กำลังเจรจาเพื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศเป็นบริษัทแรกของเวียดนาม หวังดึงดูดเงินทุนจากต่างชาติเพิ่มเติม หลังรัฐบาลเวียดนามขยายสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในอุตสาหกรรมการบินเป็น 49%

นางเหงียน ที เฟืองเถา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวียดเจ็ท เอวิเอชัน จอยท์ สต็อกฯ หรือสายการบินเวียดเจ็ทแอร์ สายการบินต้นทุนตํ่าสัญชาติเวียดนาม เปิดเผยว่า “เราได้รับการติดต่อจากตลาดหลักทรัพย์บางแห่งในต่างประเทศอาทิ ลอนดอน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งแสดงความสนใจในหุ้นของเรา”

แผนการเปิดขายหุ้นในต่างประเทศของสายการบินเวียดเจ็ทแอร์ เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลเวียดนามผ่อนปรนกฎที่เปิดให้ทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดของประเทศ โดยบอร์ดบริการของเวียดเจ็ทแอร์ได้อนุมัติการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติจาก 30% เป็น 49% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
“การจดทะเบียนในตลาดใหญ่ๆ ในต่างประเทศจะช่วยให้เราเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นกระตุ้นการซื้อขายหุ้นของเราและเพิ่มจำนวนนักลงทุน” นางเถา มหาเศรษฐีหญิงของเวียดนามกล่าว พร้อมแสดงความคาดหวังที่จะกลายมาเป็นบริษัทเวียดนามรายแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ

ธุรกิจของเวียดเจ็ทแอร์ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเวียดนาม โดยครองส่วนแบ่งกว่า40% ในตลาดการบินภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า สายการบินเผชิญกับการแข่งขันที่หนักหน่วงขึ้นในการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย จากผู้เล่นรายใหญ่ อาทิ แอร์เอเชีย“เวียดเจ็ทประสบความสำเร็จอย่างดีในช่วงเวลาสั้นๆ แต่คำถามคือรูปแบบธุรกิจของพวกเขาและกลยุทธ์ของบริษัทจะขยายไปสู่ระดับภูมิภาคได้หรือไม่” นายไทเลอร์ ชวง นักวิเคราะห์จากเอซีบีซิเคียวริตีส์ ให้ความเห็น

เวียดเจ็ทแอร์เริ่มต้นให้บริการเมื่อ 6 ปีก่อน ปัจจุบันมีนักลงทุนต่างชาติ 136 รายซึ่งถือหุ้น 26% ของบริษัท ขณะที่นางเถาถือหุ้นกว่า 60% ในสายการบินที่ตนก่อตั้งขึ้น ทั้งนี้ เวียดเจ็ทเพิ่งเปิดขายหุ้นไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี การเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติของเวียดเจ็ทจะต้องได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรีเวียดนามเนื่องจากอุตสาหกรรมการบินเป็นอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมโดยปัจจุบันมีการจำกัดการถือหุ้นของต่างชาติไว้ที่ 30% ขณะที่นางเถากล่าวว่า ทางสายการบินได้ยื่นเรื่องขอเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติเป็นที่เรียบร้อย

ช่วงที่ผ่านมาเวียดเจ็ทแอร์เดินหน้าเจรจาซื้อเครื่องบินใหม่เข้ามาเสริมฝูงบินอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน นางเถาบรรลุข้อตกลงมูลค่า 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซื้อเครื่องบินรุ่น 737แม็กซ์ 200 จากโบอิ้งเป็นจำนวน100 ลำ และก่อนหน้านี้ได้บรรลุข้อตกลงกับแอร์บัสซื้อเครื่องบินเอ 320 นีโอ จำนวน 30 ลำ มูลค่า3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เวียดเจ็ทแอร์คาดการณ์ว่าผลกำไรในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 36%จาก 2.5 ล้านล้านด่องในปี 2559โดยคาดหมายว่าจะรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 15 ล้านคนเมื่อปีก่อนเป็น 17 ล้านคน

นายเบรนแดน โซบี นักวิเคราะห์จากคาปา เซ็นเตอร์ฟอร์ เอวิเอชัน กล่าวว่า ปัจจุบันเวียดเจ็ทแอร์ และเวียดนาม แอร์ไลน์ส สายการบินแห่งชาติของเวียดนาม ครองส่วนแบ่งในตลาดการบินภายในประเทศด้วยสัดส่วน42% เท่าๆ กัน แต่คาดว่าส่วนแบ่งตลาดของเวียดเจ็ทแอร์อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายใน 3 ปีข้างหน้า

“อุตสาหกรรมการบินของเวียดนามกำลังเติบโตในอัตราสูงเมื่อเราเปิดประตูให้นักลงทุนต่างชาติกว้างขึ้น และเปิดโอกาสให้พวกเขามากขึ้น หมายความว่าเราเพิ่มโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมการบินภายในประเทศและตลาดหลักทรัพย์ภายในประเทศให้ขยายและผนวกรวมเข้ากับตลาดการบินโลกได้รวดเร็วขึ้น” นางเถากล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560