วิกฤตโควิด-19 นิวยอร์ก สั่งปิด ร.ร.และ ธุรกิจ 14 วัน

เฟซบุ๊คนไทยในนิวยอร์ก - เครือบ้านคนไทยฯ ได้โพสต์ข้อความ สถานการณ์ โควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังคงวิกฤต ยอดผู้ติด เชื้อโควิด-19 ทะลุ 7,770,000 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตแตะ 217,000 ล่าสุด นิวยอร์ก สั่งปิดธุรกิจในบางพื้นที่ 14 วัน

 

ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในประเทศสหรัฐฯ ณ วันที่ 8 ตุลาคม จากการรวบรวมของ Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ล่าสุด โดยมีการรวบรวมตัวเลขจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่าอยู่ที่ 7,776,796 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 216,788 ราย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดโควิด 9 ต.ค.63 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย มาจาก 4 ประเทศ

จีนเข้าร่วมโครงการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียม

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 36.7 ล้านราย เพิ่มขึ้น 3.3 แสนราย

ผู้ป่วยโควิดแห่ขอทดลองสูตรยาที่ใช้รักษาปธน.ทรัมป์

 

ข้อมูลดังกล่าว ทำให้สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกต่อไป

โดย ณ วันที่ 8 ตุลาคมนั้น ข้อมูลของ Worldometer บอกว่ารัฐแคลิฟอร์เนียยังคงเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดของอเมริกา คือมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 842,150 ราย โดยรัฐเท็กซัสตามมาเป็นที่สอง มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 819,992 ราย ส่วนรัฐฟลอริดามีผู้ติดเชื้อ 722,707 ราย และรัฐนิวยอร์กมีผู้ติดเชื้อ 503,290 ราย

อย่างไรก็ดี รัฐนิวยอร์กมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐ จำนวน 33,356 ราย

 

โดย บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ออกประกาศสั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจที่ไม่จำเป็นในพื้นที่ที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคโควิด-19 อย่างน้อย 14 วัน โดยปิดโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม ส่วนธุรกิจจะเริ่มปิดในวันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม เป็นต้นไป

 

โดยพื้นที่ที่จะมีการปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็นในนิวยอร์กครั้งนี้ ถือเป็น "โซนแดง" คือประชากรในพื้นที่จำนวนร้อยละ 3 มีผลตรวจโรค โควิด-19 เป็นบวกติดต่อกัน 7 วัน คลุม 9 เขตรหัสไปรษณีย์ (Zip code) เช่น เซาธ์บรูคลิน เซ็นทรัลควีนส์ และฟาร์ร็อกอะเวย์ เป็นต้น

 

นายกเทศมนตรี บลาซิโอ ทวีตว่าการสั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจที่ไม่จำเป็น ถือเป็นมาตรการสำคัญที่จะยับยั้งการระบาดของโรค และว่าตนกำลังขอให้ครอบครัวและเจ้าของธุรกิจในพื้นที่ “โซนแดง” เสียสละครั้งใหญ่อีกครั้ง เพื่อปกป้องสุขภาพของผู้คนทั้งเมือง

“ยิ่งเราปิดเร็วเท่าไร ปัญหาก็ยิ่งจบเร็วเท่านั้น" บลาซิโอกล่าว

 

ส่วนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดในอเมริกานั้น เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ออกมาเตือนประชาชนให้เตรียมรับ “คลื่นลูกที่สอง” ของโควิด-19 ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหากประชาชนเริ่ม “การ์ดตก” ดังนั้นจึงขอให้ชาวแคลิฟอร์เนียทุกคน ตื่นตัวและระมัดระวังตัวเองอย่างเคร่งครัดต่อไป

อย่างไรก็ตาม เกวิน นิวซัม ยืนยันว่าสัดส่วนของผู้ติดเชื้อในระยะ 7 วันเทียบกับประชากรในแคลิฟอร์เนีย ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องนับจากเดือนเมษายน คืออยู่ที่ร้อยละ 2.6 เท่านั้น เช่นเดียวกับตัวเลขผู้ป่วยในโรงพยาบาล ก็ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานั้น ทั่วโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึง 338,779 คน ถือเป็นการสร้างสถิติใหม่ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรอบหนึ่งวันอีกครั้ง

WHO ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในวันดังกล่าว ส่วนใหญ่มาจากอินเดีย สหรัฐ และบราซิล

นอกจากนี้ ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 5,514 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 1.05 ล้านราย