ความคืบหน้านายโยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เดินทางกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับเวียดนามและอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 18-21 ตุลาคม 2563 โดยนายซูกะได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-คู่เจรจาที่เวียดนาม จากนั้นจะเยือนอินโดนีเซีย
การเดินทางเยือน 2 ประเทศครั้งนี้ ญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญด้านความมั่นคง โดยเฉพาะในทะเลจีนใต้ ตลอดจนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากจีน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 18 – 19 ตุลาคม 2563 นายซูกะ หารือกับนายเวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง เฉพาะอย่างยิ่งการกระชับความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน (Extensive Strategic Partnership) ระหว่างสองประเทศ
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นและเวียดนามจะประสานแนวทางการย้ายฐานการผลิตหน้ากากอนามัยและเวชภัณฑ์ของญี่ปุ่นบางส่วนจากจีนมายังเวียดนาม เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่การผลิตสินค้าดังกล่าวในจีน รวมถึงจะร่วมลงนามความตกลงด้านการถ่ายทอดยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ซึ่งจะเอื้อให้ญี่ปุ่นสามารถส่งออกยุทโธปกรณ์ทางทหารแก่เวียดนาม และหารือความร่วมมือในการขับเคลื่อนแนวคิด Free and Indo Pacific ซึ่งมีนัยสำคัญต่อการสกัดกั้นการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ญี่ปุ่นได้ทำข้อตกลงในเบื้องต้นที่จะจัดหายุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีทางการทหารให้แก่เวียดนามเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและเศรษฐกิจระหว่างกันท่ามกลางความกังวลในการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค รวมทั้งเพื่อดำรงสันติภาพ ความมั่นคง เสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลจีนใต้ และแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ
นายโยชิฮิเดะ ซูกะ เห็นว่าปัญหาในทะเลจีนใต้เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกประเทศต้องตระหนักและไม่ใช้กำลังทหาร ควรใช้แนวทางสันติโดยยึดหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ