จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในยุโรปกลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว โดยล่าสุดอังกฤษ ออกมาประกาศล็อกดาวน์ เพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ได้ประกาศ ล็อกดาวน์ 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้การแพร่ระบาดลุกลามจนไม่สามารถรับมือได้
การล็อกดาวน์ ทั่วประเทศรอบใหม่ อังกฤษ ประกาศมาตรการเข้มสกัดการแพร่ระบาดอีกครั้งของโควิด-19 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน- 2 ธันวาคม2563 โดยธุรกิจค้าปลีกรวมไปถึงธุรกิจบริการที่ไม่จำเป็นจะถูกสั่งปิดทั้งหมด แต่โรงเรียนและสถานศึกษา ยังสามารถเปิดได้
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ออกประกาศให้ประชาชนควรออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นเท่านั้น อย่างเช่น ไปทำงาน ออกกำลังกาย หรือ การดูแลผู้อื่น นอกจากนี้มาตรการใหม่จะให้อยู่กับบุคคลอื่นนอกเหนือสมาชิกภายในบ้านในที่กลางแจ้งได้เพียงครั้งละคน
มาตรการที่ออกมาเข้มงวดกว่าที่เคยประเมินไว้ เนื่องจากจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดรอบ 2 อาจร้ายแรงกว่ารอบแรกที่อังกฤษประกาศล็อกดาวน์มาแล้ว
มาตรการของอังกฤษที่ประกาศใช้ดังกล่าว หลังจากที่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ยวันละเกือบ 23,000 ราย แต่ตัวเลขจริงอาจมากกว่านี้ถึง 2 เท่าตัว
ขณะที่ฝรั่งเศสประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ ประเทศเป็นครั้งที่ 2 โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่30 ตุลาคม) ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นอย่างน้อย เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ระลอก 2
ทั้งนี้ประชาชนฝรั่งเศสจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเพื่อไปทำงานที่มีความจำเป็นและเหตุผลทางการแพทย์เท่านั้น สำหรับธุรกิจที่ไม่มีความจำเป็น เช่น ร้านอาหารและบาร์ จะถูกปิด แต่โรงเรียนและโรงงานต่างๆ ยังเปิดได้
ขณะที่เยอรมนีจะใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เป็นเวลา 4 สัปดาห์ หลังจากพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่กำหนดให้ธุรกิจสถานบันเทิงและการผ่อนคลายส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงบาร์ ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ โรงละคร และสถานที่จัดคอนเสิร์ต ปิดทำการจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563