องค์การอนามัยโลก (WHO) และ จีน ร่วมกันเปิดเผยรายงานฉบับหนึ่งในวันนี้เกี่ยวกับ ต้นตอของไวรัสโควิด-19 โดยได้ข้อสรุปว่า ไวรัสดังกล่าวไม่น่าจะหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการแห่งหนึ่งใน เมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของจีน อย่างที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยไว้
รายงานฉบับนี้ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะแพร่เชื้อจากค้างคาวสู่มนุษย์ผ่านทางสัตว์อีกประเภทหนึ่งที่เป็นพาหะของโรค
ทั้งนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญที่มาจากหลายประเทศ ได้พบไวรัสที่คล้ายกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในค้างคาวและตัวนิ่ม แต่ยังชี้ชัดไม่ได้ว่า สัตว์ประเภทใดเป็นพาหะของโรคที่แพร่เชื้อสู่มนุษย์ โดยทางทีมผู้เชี่ยวชาญคาดว่าพาหะของโรคอาจเป็นประเภทตัวมิงค์และแมว เพราะเป็นที่ทราบกันว่าสัตว์กลุ่มนี้ติดเชื้อได้ง่าย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จีนยังอ้างว่าไวรัสโควิด-19 อาจถูกนำเข้าสู่ประเทศจีนผ่านทางการนำเข้าอาหารแช่แข็ง
รายงานของ WHO ที่เผยแพร่ออกมานี้ ดูเหมือนจะไม่ได้สร้างความพึงพอใจให้กับสหรัฐอเมริกาเท่าไรนัก โดยสหรัฐพร้อมกับอีก 13 ชาติ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการที่ WHO มีความล่าช้าในการเปิดเผยรายงานดังกล่าว ทั้งยังระบุว่า มีการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลที่สมบูรณ์อีกด้วย
"เราขอแสดงความกังวลต่อความล่าช้าในการเปิดเผยรายงานดังกล่าว และมีการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลและตัวอย่างที่สมบูรณ์" แถลงการณ์ระบุ
สำหรับประเทศที่แสดงความกังวลร่วมกันกับสหรัฐนั้น มีอีก 13 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา สหราชอาณาจักร สโลวีเนีย นอร์เวย์ ลิธัวเนีย ลัตเวีย เอสโทเนีย เดนมาร์ก สาธารณรัฐเชก ออสเตรเลีย อิสราเอล ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
WHO เตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญไปจีนหาต้นตอโควิด-19
WHO รับไม่อาจเพิกเฉย ความเป็นไปได้ "โควิด-19" แพร่เชื้อทางอากาศ
WHO เผยอาจมีความคืบหน้า ยารักษาโควิด-19 เร็วๆนี้
WHO ชี้บางประเทศเผชิญโควิดระบาดหนัก อาจใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบ2