จับตาอังกฤษยุติล็อกดาวน์วันนี้ นักวิทย์ฯเตือนผลกระทบอาจสะเทือนทั้งโลก

19 ก.ค. 2564 | 00:02 น.

ผู้เชี่ยวชาญจวกอังกฤษหากยกเลิกล็อกดาวน์วันนี้ (19 ก.ค.) ตามที่เคยประกาศไว้ จะส่งผลกระทบเป็นอันตรายกับทั้งโลก แม้แต่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี ก็ยังต้องกักตัวเนื่องจากใกล้ชิดคนติดโควิดเมื่อเร็ว ๆนี้ ซ้ำสถิติผู้ติดเชื้อใหม่รายวันยังพุ่งทะยานสูงที่สุดในโลก

บรรดานักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้วิพากษ์วิจารณ์แผนการของ รัฐบาลอังกฤษ ที่จะผ่อนคลายข้อจำกัดในการควบคุม โรคโควิด-19 เกือบทั้งหมดที่เหลืออยู่ในวันจันทร์นี้ (19 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น) โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณและเป็นอันตรายต่อทั้งโลก

 

นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำและที่ปรึกษารัฐบาลจากทั่วโลกซึ่งมารวมตัวกันในการประชุมสุดยอดเสมือนจริงเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เตือนว่า อังกฤษ กำลังจะเผชิญกับ “หายนะ” ด้วยการยกเลิกข้อจำกัดส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่ในวันจันทร์นี้ (19 ก.ค.) ตามที่ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี เคยประกาศไว้

 

การประชุมดังกล่าวมีขึ้น เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์มากกว่า 1,200 คนสนับสนุนจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงวารสารการแพทย์ เดอะ แลนเซต ซึ่งระบุว่า แผนการของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษนั้นเป็นอันตรายและเร็วเกินไป

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

ทั้งนี้ อังกฤษจะยกเลิกข้อจำกัดส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่ รวมทั้งถึงการบังคับสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคมในวันที่ 19 ก.ค.นี้  ซึ่งนายจอห์นสันระบุว่า จะเป็นการดำเนินการที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ แม้ว่าล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายวันจะยังทะยานขึ้นอย่างน่าวิตก โดยอังกฤษได้กลายเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงสูงที่สุดในโลกแล้วเมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ค.) ด้วยสถิติ 54,674 ราย

 

นายจอห์นสันได้ยกเหตุผลปกป้องการตัดสินใจยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ของเขาว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะดำเนินการ (ยกเลิกล็อกดาวน์) ก่อนที่สภาพอากาศจะเย็นลงอีก และเป็นช่วงเวลาที่การปิดภาคเรียนใกล้เข้ามาซึ่งก็จะเป็นการปิดโอกาสการแพร่ระบาดของโควิดในโรงเรียน

 

อย่างไรก็ตาม คริสตินา พาเจล ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยปฏิบัติการทางคลินิกของมหาวิทยาลัย UCL ในลอนดอนได้เตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่จะอุบัติขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้

 

"การกลายพันธุ์ใดๆ ของไวรัสโควิดสามารถทำให้แม้แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อได้ง่ายขึ้น และในฐานะที่อังกฤษเป็นศูนย์กลางการเดินทางทั่วโลก ไวรัสใดๆ ที่จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอังกฤษก็มีแนวโน้มที่จะระบาดไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เช่นเดียวกับไวรัสสายพันธุ์อัลฟา (ซึ่งเดิมเรียกสายพันธุ์อังกฤษ) และดิฉันมั่นใจว่า เรา (อังกฤษ) มีส่วนที่ทำให้สายพันธุ์เดลตาระบาดไปทั่วยุโรปและอเมริกาเหนือ"

 

ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า นโยบายของอังกฤษไม่เพียงสร้างผลกระทบต่ออังกฤษเท่านั้น แต่จะส่งผลกระทบต่อทุกคนและทั่วโลกก็มีความเสี่ยงกับสิ่งที่อังกฤษตัดสินใจดำเนินการ

 

นอกจากความวิตกกังวลที่สะท้อนจากฝ่ายนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์แล้ว เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษติดเชื้อโควิด โดยนายซาจิด จาวิด รมว.สธ.ของอังกฤษเปิดเผยเองเมื่อวันเสาร์ (17 ก.ค.) ว่าเขามีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวก แต่อาการไม่รุนแรงเพราะฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว

 

นายจาวิดโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ระบุว่า เขามีอาการเพียงเล็กน้อย เนื่องจากได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วทั้ง 2 โดส และเขากำลังกักตัวที่บ้านพักอาศัยกับครอบครัว

 

ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษเปิดเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 54,674 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศเมื่อวันที่ 18 ก.ค.อยู่ที่ 5,386,340 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 41 ราย สู่ระดับ 128,683 ราย