จีนยกระดับแผนขั้นสูงสุดรับมือไต้ฝุ่น “อินฟา” ขึ้นฝั่งพร้อมฝนถล่มหนัก

สำนักงานใหญ่ควบคุมอุทกภัยประจำมณฑลเจ้อเจียงรายงานว่า ช่วงเที่ยงวานนี้ (25 ก.ค.) ไต้ฝุ่นอินฟา (In-Fa) ซึ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่จีนเผชิญในปีนี้ ได้พัดขึ้นฝั่งในมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีนแล้ว ด้วยความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางสูงถึง 38 เมตรต่อวินาที และพัดถล่มเขตผู่ถัว ในเมืองโจวซาน ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญของชายฝั่งภาคตะวันออกของจีน เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.

สำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของจีนรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ทางการจีนได้อพยพประชาชนเกือบ 500 คนไปยังโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอซานเหมินของมณฑล ซึ่งใช้เป็นสถานที่พักพิงชั่วคราวจากเหตุไต้ฝุ่นที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับผู้อพยพ นอกจากนี้ ศูนย์พักพิงอีกแห่งในอำเภอเซี่ยงซานยังมีการแสดงต่างๆ ที่จัดโดยกลุ่มอาสาสมัครท้องถิ่น รวมถึงการร้องเพลง การเต้นรำ การแสดงละคร และศิลปะพื้นบ้าน เพื่อบรรเทาความกังวลของผู้อพยพ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเรือน เพื่อช่วยอพยพผู้คนไปยังสถานที่ปลอดภัย ขณะที่เรือประมงกว่า 700 ลำถูกจอดทอดสมอไว้ที่ท่าเรือฉงจ้านในเมืองหนิงโป ซึ่งเป็นท่าเรือที่ได้รับการเสริมโครงสร้างให้แข็งแกร่งเพื่อความทนทานต่อลมแรงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งยังมีคนงานเข้าตรวจสอบความเรียบร้อยของการจอดเรือแต่ละลำ

ทั้งนี้ มณฑลเจ้อเจียงได้ประกาศยกระดับแผนรับมือภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมไต้ฝุ่นอินฟาสู่ระดับ 1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการรับมือภาวะฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.เพื่อรับมือกับพายุไต้ฝุ่นที่กำลังจะขึ้นฝั่ง

ผลของพายุไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งลูกนี้ ทำให้ท่าอากาศยานนานาชาติทั้งสองแห่งใน นครเซี่ยงไฮ้ ประกาศ ยกเลิกทุกเที่ยวบิน ขณะที่ทางการประกาศห้ามการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง

นางเมลินดา หลิว บรรณาธิการนิตยสารนิวส์วีคประจำกรุงปักกิ่งให้ความเห็นว่า ปัญหาเกี่ยวกับพายุลูกนี้ไม่ได้มีเฉพาะผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแล้วกับหลายพื้นที่ที่พายุพาดผ่าน แต่ยังเกี่ยวกับช่วงเวลาที่พายุขึ้นฝั่งซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันตามหลังมหาอุทกภัยที่กำลังคุกคามทั้งชีวิตและทรัพย์ของประชาชนนับล้านคนในหลายจังหวัดของภาคกลางและทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วนับสิบราย ภาพที่ปรากฏทางสื่อก่อนหน้านี้สร้างความหวั่นวิตกให้กับประชาชน และเชื่อว่าจะส่งแรงกระเพื่อมกดดันไปยังภาคการเมืองซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะทำให้รัฐบาลถูกตำหนิถึงปัญหาในการรับมือภาวะฉุกเฉินและการเตรียมพร้อมรับมือเพื่อป้องกันตั้งแต่ต้น

ทั้งนี้หลายพื้นที่ภาคกลางของจีนยังคงตกอยู่ใต้ผลกระทบของภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง มีรายงานยอดผุ้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 63 ราย (ณ วันที่ 25 ก.ค.) หลายหมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ และจนถึงขณะนี้มีการอพยพประชาชนหนีภาวะอุทกภัยแล้วมากกว่า 1 ล้านคน  

เฉพาะในนครเซี่ยงไฮ้ซึ่งมีประชากรราว 26 ล้านคน แรงลมพายุทำให้มีต้นไม้หักโค่นประมาณ 1,000 ต้นช่วงบ่ายวานนี้ (25 ก.ค.) ถนนหลายสายน้ำท่วมสูงโดยมีน้ำทะเลหนุน สนามบินต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกตั้งแต่วันเสาร์ (24 ก.ค.) บริการรถไฟใต้ดินบางพื้นที่ในนครเซี่ยงไฮ้และหังโจว ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ ประกาศงดให้บริการชั่วคราวเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญเมื่อภาวะน้ำท่วมสูงในระบบรถไฟใต้ดินของเจิ้งโจวทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 12 คน