เฟซบุ๊กออกกฎเหล็กให้พนักงานทุกคนในสหรัฐสวมหน้ากากอนามัยในออฟฟิศ

03 ส.ค. 2564 | 17:30 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ส.ค. 2564 | 13:55 น.

เพื่อรับมือกับโควิดเดลต้าที่ยังระบาดหนัก “เฟซบุ๊ก” ประกาศให้พนักงานในออฟฟิศที่สหรัฐอเมริกาทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสำนักงาน ไม่ว่าพนักงานจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วหรือไม่ก็ตาม

แถลงการณ์ของ เฟซบุ๊ก สะท้อนถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์ “เดลต้า” (Delta) ที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันในหลายพื้นที่ของ สหรัฐอเมริกา พุ่งสูงขึ้น ตอนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุว่า สุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน รวมถึงผู้คนในชุมชนเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับบริษัท  “เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้น ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับไวรัสกลายพันธุ์ และข้อบังคับในชุมชนที่เพิ่มขึ้น เราจึงนำข้อบังคับเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยกลับมาใช้อีกครั้งกับพนักงานทั้งที่ยังไม่ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนแล้วก็ตามในสำนักงานเฟซบุ๊กทุกแห่งในสหรัฐอเมริกา"

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก และภรรยา เชิญชวนให้พนักงานสวมหน้ากากอนามัย

นโยบายใหม่ของเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในสำนักงานนี้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันพุธนี้ (4 ส.ค.) และจะใช้ไปจนกว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติม การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานท้องถิ่นหลายแห่งในพื้นที่อ่าวซานฟรานซิสโกได้ออกคำสั่งเช่นเดียวกันเพื่อให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารตามสถานที่สาธารณะต่างๆ

 

รายงานข่าวระบุว่า นโยบายการสวมหน้ากากอนามัยในสำนักงานของเฟซบุ๊กนั้นเกิดขึ้นตามมา หลังจากที่บริษัทประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ว่าจะพนักงานในสหรัฐทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อนที่จะกลับเข้าทำงานในสำนักงาน

 

ทั้งนี้ บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไม่ใช่แค่เฟซบุ๊กเพียงแห่งเดียวที่กลับมาใช้มาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดมากขึ้น หลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งเนื่องจากไวรัสสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดอยู่ในขณะนี้สามารถแพร่ระบาดได้ไว นอกจากนี้ นักวิจัยยังเชื่อว่าไวรัสโควิดเดลต้ายังอาจสามารถหลบหลีกการป้องกันของวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

 

ด้านบริษัทกูเกิลได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาให้พนักงานต้องฉีดวัคซีน และเลื่อนกำหนดการกลับเข้าออฟฟิศออกไปจนถึงเดือนต.ค. ขณะที่บริษัทแอปเปิลได้ชะลอแผนการกลับเข้าออฟฟิศไปเป็นเดือนต.ค.เช่นกัน

 

ปัจจุบัน สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน 35,768,924 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 629,380 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ส.ค. จากเว็บไซต์ Worldometer) กล่าวได้ว่า สหรัฐครองตำแหน่งอันดับ 1 ของโลกทั้งในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดย

  • รัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 3 ล้านราย ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส
  • รัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านราย ได้แก่ ฟลอริดา นิวยอร์ก
  • รัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านราย ได้แก่ อิลลินอยส์ เพนซิลเวเนีย จอร์เจีย โอไฮโอ นอร์ทแคโรไลนา นิวเจอร์ซีย์ มิชิแกน
  • นอกจากนี้ รัฐแคลิฟอร์เนียยังเป็นรัฐที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐ จำนวน 64,423 ราย