ทำเนียบขาว แถลงวานนี้ (2 ส.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐ สามารถบรรลุเป้าหมายในการ ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสให้แก่ชาวอเมริกันในวัยผู้ใหญ่จำนวน 70% ของประชากรทั้งประเทศแล้ว
อย่างไรก็ดี การฉีดวัคซีนดังกล่าวล่าช้ากว่าที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำหนดไว้ถึง 1 เดือน โดยในครั้งนั้น (เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา) ปธน.ไบเดนกล่าวว่า เขาต้องการให้ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 70% ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ภายในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐอเมริกา
ทางด้านนายแพทย์พอล ออฟฟิต สมาชิกของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นที่จะต้องให้ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 80% ได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์เดลตาเป็นสายพันธุ์ที่สามารถติดต่อได้ง่าย
ขณะเดียวกัน ค่าเฉลี่ยล่าสุดของอัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐอยู่ที่ระดับ 660,000 รายต่อวัน ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับมากกว่า 3 ล้านรายต่อวันที่เคยทำไว้ในช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน 35,768,924 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 629,380 ราย ( สถิติจาก Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก) กล่าวได้ว่า สหรัฐครองตำแหน่งอันดับ 1 ของโลกทั้งในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดย