ทำเนียบขาว แถลงวานนี้ (4 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น) ว่า รัฐบาลสหรัฐ ยังคงพร้อมที่จะดำเนินการฉีด วัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชนหากมีความจำเป็น แม้ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) จะออกมาเรียกร้องให้นานาชาติระงับโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นการชั่วคราว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของการฉีดวัคซีนทั่วโลก เนื่องจากในหลายประเทศยากจน ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิดแม้แต่เข็มเดียว
"นี่เป็นทางเลือกที่ผิด โดยสหรัฐสามารถดำเนินการได้ทั้งสองอย่าง ด้วยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชน หากวัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัติในสหรัฐ และในขณะเดียวกันสหรัฐยังสามารถบริจาควัคซีนส่วนเกินให้แก่ชาติอื่นๆ" นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวกล่าว
ทางด้าน WHO ระบุว่า ชาติที่ร่ำรวยควรระงับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อย่างน้อยเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อให้ WHO บรรลุเป้าในการระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้แก่ประชากร 10% ของทุกประเทศภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้
นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ยังกล่าวด้วยว่า อาจมีการขยายเวลาระงับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 มากกว่า 2 เดือน หากการฉีดวัคซีนในประเทศที่มีอัตราการฉีดต่ำยังคงไม่กระเตื้องขึ้น
"เราจำเป็นต้องพลิกสถานการณ์อย่างเร่งด่วนจากการส่งวัคซีนส่วนใหญ่ให้แก่ชาติที่ร่ำรวย ไปสู่การส่งวัคซีนส่วนใหญ่ให้แก่ชาติที่ยากจน"
นอกจากนี้ WHO ยังมีแผนจะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชากรโลกให้ได้ถึง 40% ภายในเดือนธ.ค.นี้
การเรียกร้องของ WHO สอดคล้องกับที่ผู้เชี่ยวชาญของ WHO เคยออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่าไม่แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็ม 3 เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนประสิทธิภาพของการดำเนินการดังกล่าว
แพทย์หญิงแคทเธอรีน “เคท” โอไบรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิคุ้มกัน วัคซีน และชีววิทยาของ WHO กล่าวว่า WHO ไม่แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย "ในขณะนี้" เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนประสิทธิภาพในการดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้ WHO กำลังทำการวิจัยว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 มีความจำเป็นหรือไม่ในการป้องกันไวรัสที่มีการกลายพันธุ์
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของบริษัทไฟเซอร์ โมเดอร์นา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 รายใหญ่ของสหรัฐ ต่างสนับสนุนให้ชาวอเมริกันเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังจากที่ได้รับวัคซีนครบโดสไปก่อนหน้านี้แล้ว