กลาโหมสหรัฐเตรียมออกคำสั่งบังคับบุคลากรของกองทัพฉีดวัคซีนป้องกันโควิด

10 ส.ค. 2564 | 02:31 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ส.ค. 2564 | 09:46 น.

กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เตรียมออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด เล็งระดมฉีดไม่เกินกลางเดือนกันยายน

พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า ทางกระทรวงจะออกคำสั่งบังคับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเข้ารับ การฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไม่เกินกลางเดือนก.ย.นี้ กำหนดการดังกล่าวอาจเลื่อนเข้ามาให้เร็วขึ้นอีกหากมีการปรับเปลี่ยนระเบียบกำกับดูแล หรือสถานการณ์การแพร่ระบาดย่ำแย่ลง

พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ

พล.อ.ออสตินกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังการหารือกับประธานคณะเสนาธิการร่วม และหัวหน้าส่วนต่างๆของทางกระทรวง รวมทั้งคณะกรรมการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำทำเนียบขาว

 รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐระบุในบันทึกของกระทรวงว่า "ผมจะขอการอนุมัติจากท่านประธานาธิบดี เพื่อบังคับให้มีการฉีดวัคซีนภายในกลางเดือนก.ย. หรือไม่ก็ทันทีที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) แล้วแต่ว่าสิ่งใดมาก่อน"


นายออสตินจำเป็นต้องขอการยกเว้นจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อบังคับให้บุคลากรกองทัพเข้ารับการฉีดวัคซีน เนื่องจากวัคซีนของไฟเซอร์ขณะนี้ได้รับการอนุมัติเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ยังไม่ได้รับการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบจาก FDA โดยนายออสตินระบุในบันทึกดังกล่าวว่า FDA อาจจะมีการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบใน "ต้นเดือนหน้า"


"ผมจะไม่ลังเลหากต้องรีบดำเนินการก่อน หรือแนะนำแนวทางที่แตกต่างออกไปให้ท่านประธานาธิบดีรับทราบหากผมจำเป็นต้องทำ" รมว.กลาโหมสหรัฐเน้นย้ำความจำเป็นในการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด เมื่อประเมินจากภาระงานอันหนักหน่วงอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า

เขายังระบุด้วยว่า กลาโหมจำเป็นต้องมีกองกำลังที่แข็งแรงและพร้อมทำหน้าที่ปกป้องชาติ เขาจึงเชิญชวนให้บุคลากรกองทัพที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ให้รีบไปฉีดวัคซีนซะ แทนที่จะต้องมารอคำสั่งบังคับให้ฉีด

 

ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังจากได้รับทราบข่าวดังกล่าวก็ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนมาตรการของกระทรวงกลาโหม โดยก่อนหน้านี้เขาเพิ่งประกาศสั่งการให้กระทรวงกลาโหม "ศึกษาแนวทางและกรอบเวลาในการเพิ่มวัคซีนโควิด-19 ลงในรายการวัคซีนที่บุคลากรกองทัพต้องฉีด"

 

ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ พบว่า เจ้าหน้าที่ราวครึ่งหนึ่งของกองทัพได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว โดยกองทัพเรือมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุด

กลาโหมสหรัฐเตรียมออกคำสั่งบังคับบุคลากรของกองทัพฉีดวัคซีนป้องกันโควิด

นอกจากนี้ ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมยังระบุข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่า นับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว (2563) เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมจำนวน 28 รายได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคระบาดดังกล่าว