สำนักข่าวซีเอ็นบีซี สื่อใหญ่ของสหรัฐรายงานว่า คำสั่งดังกล่าวของนครนิวยอร์ก จะไม่อนุญาตให้บุคลากรในโรงเรียนของรัฐ ส่งผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบแทนการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ระบบโรงเรียนของรัฐในนิวยอร์กซิตี้ถือเป็นระบบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีนักเรียนเกือบ 1.1 ล้านคนในโรงเรียนเกือบ 1,900 แห่ง
นอกจากนี้ นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก ยังได้สั่งการให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับบางกิจกรรมในเมือง โดยลูกค้าและพนักงานของร้านอาหาร โรงยิม และสถานบันเทิงต่าง ๆ ต้องแสดงหลักฐานว่าได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 1 โดสภายในวันที่ 13 ก.ย.นี้
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานภาครัฐบางแห่งของสหรัฐ เช่น กระทรวงกลาโหม ก็มีนโยบายลักษณะเดียวกัน คือการประกาศให้บุคลากรของกองทัพทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เช่นเดียวกับ บริษัทเอกชนหลายราย เช่น ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส, ดิสนีย์, วอลมาร์ต, ไมโครซอฟต์, กูเกิล และเฟซบุ๊ก ที่ได้ประกาศแผนเกี่ยวกับการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับบุคลากรในองค์กรของตัวเองไปแล้วเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า ยังจะมีอีกมากมายหลายบริษัทที่จะหันมาออกข้อกำหนดภายในองค์กรเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับบุคลากรของตนเอง ภายหลังจากที่ FDA ให้การอนุมัติการใช้วัคซีนอย่างเต็มรูปแบบ
โดยล่าสุด เชฟรอน คอร์ป บริษัทน้ำมันที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ เป็นบริษัทเอกชนอีกรายที่สั่งพนักงานบางส่วนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด พร้อมเล็งออกข้อกำหนดเพิ่มเติม
แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่า เชฟรอน เริ่มกำหนดให้พนักงานบางส่วนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว และกำลังประเมินข้อกำหนดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนสำหรับพนักงานทั้งองค์กร
บราเดน เรดเดลล์ โฆษกของเชฟรอน กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทกำหนดให้พนักงานที่อยู่ในต่างประเทศ พนักงานที่เดินทางไปต่างประเทศ และพนักงานบนเรือของสหรัฐ จะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
ส่วนในอนาคตนั้น บริษัทจะกำหนดให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่นอกชายฝั่งในอ่าวเม็กซิโก และพนักงานสนับสนุนบนบกบางรายต้องฉีดวัคซีนภายในวันที่ 1 พ.ย. และเสริมว่าข้อกำหนดดังกล่าวครอบคลุมพนักงานหลายพันคน