เทรนด์ใหม่คุณสมบัติสมัครงานยุคโควิด: ต้องฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว

01 ก.ย. 2564 | 05:46 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ย. 2564 | 14:31 น.

หาอาชีพในอนาคต ผู้สมัครงานในยุคโควิด-19 แพร่ระบาดพึงตระหนัก “ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว” เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่หลายหน่วยงานยุคนี้ให้ความสำคัญ แม้หลายคนจะมองว่ามันเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่หลายหน่วยงานมองว่านี่คือสิ่งสะท้อนความรับผิดชอบต่อสังคม

หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ FDA สหรัฐ อนุมัติการใช้วัคซีนไฟเซอร์อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมคาดว่าโมเดอร์นาและจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน จะได้รับอนุมัติในลักษณะเดียวกันตามมาในเร็ววัน ทั้งหน่วยงานและองค์กรเอกชนจำนวนมากในสหรัฐ ก็มีความชัดเจนและคล่องตัวมากขึ้นในการกำหนดนโยบายการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในองค์กร โดยแนวโน้มที่เห็นได้ชัดคือ มี บริษัทเอกชน จำนวนมากขึ้นที่ระบุว่า พวกเขาต้องการให้ผู้ร่วมงานหรือบุคลากรร่วมองค์กร ฉีดวัคซีนให้ครบโดส

 

ก่อนหน้านี้ มีหลายหน่วยงานในสหรัฐกำหนดว่าบุคลากรในองค์กรจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ครบโดสก่อนกลับเข้าทำงานในสำนักงานอีกครั้ง (หลังจากทำงานจากบ้าน หรือ Work from Home มาเนิ่นนานนับเดือน) บางองค์กรธุรกิจถึงกับกำหนดว่า หากกลับเข้าออฟฟิศโดยไม่ฉีดวัคซีน มีโทษถึงขั้นให้พักงานกันเลยทีเดียว หลายองค์กรกำหนดเงื่อนไขการรับพนักงานใหม่เข้าร่วมทำงาน ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดครบโดสแล้วเช่นกัน นี่คือแนวโน้มที่เชื่อว่าจะได้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในสถานการณ์ที่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และเริ่มเปิดเศรษฐกิจ เปิดประเทศ ในขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงมีอยู่  

ก่อนรับพนักงานใหม่ พวกเขาต้องได้รับวัคซีนต้านโควิดครบโดสเสียก่อน

ตัวอย่างล่าสุด คือกรณีของสายการบินเดลต้าในสหรัฐอเมริกา ที่แถลงชัดเจนในวันนี้ (1 ก.ย.) ว่า ผู้ที่ประสงค์จะเข้าสมัครงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่บริษัทเปิดตำแหน่งว่างอยู่ 1,500 ตำแหน่งนั้น นอกจากคุณสมบัติทั่วไปที่พึงมีในสาขาอาชีพนี้แล้ว อีกหนึ่งคุณสมบัติที่มีเพิ่มเติมเข้ามาในปีนี้ก็คือ จะต้องเป็นผู้ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ครบโดสแล้ว

 

นอกจากนี้ พนักงานของเดลต้าในปัจจุบันที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่โครงการฝึกอบรมเพื่อเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ก็จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบโดสเช่นกัน ก่อนถึงกำหนดวันเข้ารับการฝึกอบรม

 

ก่อนหน้านี้ สายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ส่งหนังสือเวียนแจ้งพนักงานว่า ผู้ที่ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 จะถูกเรียกเก็บค่าประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น 200 ดอลลาร์ต่อเดือนในโครงการประกันสุขภาพของทางบริษัท

 

หนังสือเวียนดังกล่าว ซึ่งลงนามโดยนายเอ็ด บาสเตียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเดลต้า ระบุว่า คำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย. 2564 

 

รายละเอียดยังระบุว่า พนักงานที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในสำนักงาน และจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.เป็นต้นไป

 

ซีอีโอสายการบินเดลต้าฯ ย้ำว่า การเรียกเก็บค่าประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้นนี้ถือว่ามีความสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินของทางบริษัท เนื่องจากการที่พนักงานเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในกรณีที่ติดเชื้อโควิด-19 จะทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ยรายละ 50,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 1.6 ล้านบาทเลยทีเดียว