สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลด้านการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (3 ก.ย.) ว่า เขามีความประสงค์จะลงสมัครชิงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ขณะที่นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ส่งสัญญาณว่าจะลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ
นายโคโนะซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม ถือเป็นนักการเมืองอีกรายหนึ่งที่มีแนวโน้มที่จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นตามผลสำรวจความคิดเห็นของสื่อ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของนายโคโนะมีขึ้น หลังจากที่สำนักข่าวเกียวโดรายงานเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างแหล่งข่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นว่า นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แสดงความประสงค์ที่จะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับความล้มเหลวในการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดหนัก ขณะที่สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า นายซูงะจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค LDP ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ เพื่อเปิดทางให้บุคคลอื่นขึ้นมาแทนที่เขา
ทั้งนี้ การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP เพื่อหาผู้สืบทอดตำแหน่งต่อนายจากซูงะนั้น จะมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่น ขณะที่วาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นจะสิ้นสุดลงในวันที่ 21 ต.ค.ที่จะถึงนี้
ก่อนหน้าจะมีข่าวการไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค LDP ในเดือนก.ย.นี้ของนายซูงะ สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า 2 ตัวเต็งในการแข่งขันดังกล่าวก็คือนายซูงะกับนายฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตหัวหน้าฝ่ายกำกับนโยบายของพรรค LDP แต่หลังจากที่สื่อตีข่าวว่านายซูงะจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเปิดทางให้กับสมาชิกพรรคคนอื่น ๆ ก็ปรากฏว่ามีอีกหลายรายชื่อที่ถูกระบุว่า สนใจเข้าแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และหนึ่งในนั้นก็คือ นายทาโร โคโนะ สมาชิกคนสำคัญของพรรค LDP ซึ่งอยู่ในขั้วเดียวกับนายทาโร อาโสะ รองนายกฯและรัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่นคนปัจจุบัน
ประวัติการทำงานของ นายทาโร โคโนะ นั้น เคยผ่านการเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญมาแล้วหลายกระทรวงซึ่งรวมถึงกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนที่จะได้รับการมอบหมายให้ดูแลกระทรวงการปฏิรูป และภารกิจเฉพาะหน้าในการดำเนินโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน
ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจัดทำโดยนิกเคอิเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า 16% ของผู้ตอบคำถามการสำรวจ อยากให้นายทาโร โคโนะ ขึ้นมารับตำแหน่งแทนนายซูงะ (16% คือสัดส่วนที่มากที่สุด) โดยเขาได้รับคะแนนสนับสนุนมากเป็นพิเศษในหมู่คนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 40 ปี
“การรับมือกับโควิด-19 ไม่ใช่แค่เรื่องของการฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียว แต่เรายังต้องลงมือปฏิรูปในหลายเรื่องที่จำเป็น” นายโคโนะกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (3 ก.ย.) พร้อมย้ำว่า ไม่ต้องกลัวว่าการแข่งขันในศึกเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP จะไปยุ่งเกี่ยวกับภารกิจที่เขาได้รับมอบหมายในโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชน เพราะก่อนหน้านี้เคยมีประสบการณ์มาแล้ว ตอนมีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรขณะที่เขาเป็นรมว.ต่างประเทศ ก็ไม่มีปัญหาอะไร “ผมเชื่อว่าจะสามารถแข่งขันในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP ขณะยังทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีได้โดยไม่มีปัญหา”
ด้าน นายชิเกรุ อิชิบะ อดีตเลขาธิการพรรค LDP ซึ่งยังไม่ได้ออกมาระบุอย่างชัด ๆ ก่อนหน้านี้ว่าจะลงเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP หรือไม่ กล่าวเพียงว่าเขาจะตัดสินใจในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยต้องปรึกษาหารือกับผู้ร่วมงานและพิจารณาสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปประกอบด้วย นายอิชิบะเคยเป็นรัฐมนตรีมาหลายประทรวงแล้ว ซึ่งรวมถึงกระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและการพัฒนาส่วนภูมิภาค
“ในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล เราจึงต้องรับภารกิจในการสรรหาผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี” อิชิบะยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในญี่ปุ่นว่า ประเด็นสำคัญ 3 ประการที่น่าจะถูกหยิบยกมาหาเสียงในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP ครั้งนี้ น่าจะประกอบด้วยประเด็นโควิด-19 , จำนวนประชากรที่ลดน้อยลงของญี่ปุ่น และความมั่นคงแห่งชาติ
สำหรับคะแนนความนิยมของเขานั้น ไล่ตามโคโนะใกล้เข้ามามากขึ้นในการสำรวจของนิกเคอิ และอาจเป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่ผู้ที่ไม่สนับสนุนครม.ของนายซูงะ อย่างไรก็ตาม กลุ่มของนายอิชิบะในพรรค LDP นั้นมีเพียง 17 คนหรือ 17 เสียง ซึ่งไม่เพียงพอที่จะเปิดแคมเปญลงแข่งขันในศึกเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ซึ่งมีเงื่อนไขผู้สมัครต้องมีผู้สนับสนุนในพรรค 20 คน แต่นายอิชิบะก็มีทางออกหากต้องการลงแข่งขันจริง ๆ นั่นคือต้องไปขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคที่อยู่ในกลุ่มหรือก๊วนอื่น ๆ
ส่วน นายฟูมิโอะ คิชิดะ ตัวเต็งที่เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (3 ก.ย.) ว่า เหลือเวลาอีกเกือบ ๆ 1 เดือนก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งก่อนจะถึงเวลานั้นอาจเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นได้มากมาย จึงต้องตื่นตัวติดตามสถานการณ์อยู่เสมอ
นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมี นางซานาเอะ ทาคาอิชิ อดีตรัฐมนตรีมหาดไทย ที่แสดงความประสงค์ชัดเจนว่าเธอต้องการลงแข่งขันในศึกเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP จุดยืนของทาคาอิชิคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่เธอให้ความสำคัญมากที่สุด
อีกบุคคลที่น่าสนใจ คือ นายชินจิโร โคอิสุมิ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นทายาทของอดีตนายกรัฐมนตรีจุนอิจิโร โคอิสุมิ และเป็นผู้ที่สื่อญี่ปุ่นเคยทำนายไว้ว่าน่าจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำรัฐบาลได้ในอนาคต
สื่อใหญ่นิกเคอิ ระบุคำให้สัมภาษณ์ของนายชินจิโรว่า ตัวเขาเองเป็นคนที่แนะนำให้นายซูงะงดลงแข่งขันในศึกเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งนี้ เพราะมีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลมากในขณะนี้ แต่เขาก็เห็นว่า ไม่มีรัฐบาลชุดไหนอีกแล้วที่ทำงานหนักขนาดนี้และสร้างผลงานมากมายภายในเวลาเพียงปีเดียว เหตุผลที่เขาแนะนำว่านายซูงะไม่ควรลงเลือกตั้งก็เพราะหากลงสมัครแล้วไม่ได้รับชัยชนะ นายซูงะอาจไม่ได้รับเครดิตหรือการยกย่องในผลงานที่ทำมาตลอดช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวเขาเอง ยังไม่มีคำตอบว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP หรือไม่