ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยวานนี้ (10 ก.ย.) ว่า จากการติดตามศึกษากรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 600,000 รายใน 13 รัฐตั้งแต่เดือนเม.ย.ถึงกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า
ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี้ ผู้อำนวยการ CDC เปิดเผยในการแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ว่า "การฉีดวัคซีนได้ผล" และ "สิ่งสำคัญที่สุดคือ เรามีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่เราต้องการ เพื่อพลิกสถานการณ์การระบาดใหญ่นี้"
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ลดน้อยลง โดยอยู่ที่ระดับ 91% ในฤดูใบไม้ผลิ และลดลงเหลือ 78% ในเดือนมิ.ย.และก.ค.2564
สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว แต่ยังติดเชื้อโควิด-19 และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนั้นอยู่ที่ระดับ 14% และเสียชีวิตที่ระดับ 16% ซึ่งคิดเป็น 2 เท่าจากระดับของเมื่อต้นปีนี้
ดร.วาเลนสกีให้ข้อมูลปิดท้ายประกอบการตัดสินใจในการฉีดวัคซีนว่า ผู้ป่วยโควิดมากกว่า 90% ในโรงพยาบาลของสหรัฐนั้น เป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน