WHO แนะ "ผู้มีปัญหาสุขภาพ" ให้ใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์เป็นเข็ม 3
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำผู้มีปัญหาสุขภาพ ให้ฉีดวัคซีนของโนวาแวกซ์ เป็นเข็ม 3 หรือวัคซีนบูสเตอร์ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานโควิด-19 วัคซีนดังกล่าวเพิ่งได้รับการรับรองทั้งจาก WHO และองค์การยาแห่งยุโรป (EMA) เมื่อเร็ว ๆนี้
บริษัทโนวาแวกซ์ อิงค์ จากสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิต วัคซีน “โควาแวกซ์” (Covavax) ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติใช้ทั้งจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และ องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) เมื่อเร็ว ๆนี้ เปิดเผยว่า คณะที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ด้านการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (SAGE) ของ WHO ได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนโควาแวกซ์ หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า NVX-CoV2373 เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือ “วัคซีนเข็ม3” สำหรับบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ SAGE ได้ออกคำแนะนำต่าง ๆ รวมถึง การใช้วัคซีนกับบุคคลที่มีโรคประจำตัว สตรีให้นมบุตร และบุคคลที่ติดเชื้อเอชไอวี โดยหลังการพิจารณาข้อมูลของโนวาแวกซ์แล้วนั้น SAGE ระบุว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถใช้กับสตรีตั้งครรภ์ หากประโยชน์ที่ได้จากการฉีดวัคซีนสูงกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา WHO เพิ่งขึ้นทะเบียนการใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์ในกรณีฉุกเฉินสำหรับการป้องกันเชื้อโควิด-19 นับเป็นวัคซีนต้านโควิดตัวที่ 9 ที่ WHO ให้การรับรอง ซึ่งเป็นการปูทางให้สามารถใช้วัคซีนชนิดนี้ในประเทศรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางทั่วโลก ซึ่งมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนช้ากว่าประเทศในยุโรปอย่างมาก โดยวัคซีนของโนวาแวกซ์ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มอินเดีย (SII) ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ทางองค์การยาแห่งยุโรป (EMA) ยังได้ตามรอย WHO ประกาศอนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของโนวาแวกซ์ด้วย โดยอนุมัติให้ฉีดแก่ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป (การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นการอนุมัติวัคซีนต้านโควิดตัวที่ 5 ของ EMA เป็นกรณีฉุกเฉิน) เป้าหมายเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังพุ่งทะยานจนน่าวิตกในสหภาพยุโรป (อียู) อย่างไรก็ดี EMA ระบุว่า ยังคงมีข้อมูลจำกัดในการบ่งชี้ว่าวัคซีนของโนวาแวกซ์มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
EMA แถลงว่า วัคซีนของโนวาแวกซ์มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่ข้อมูลของโนวาแวกซ์ระบุ ผลการทดลองในสหรัฐและเม็กซิโกชี้ว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพ 90.4% ในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนการทดลองในอังกฤษพบว่าวัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพ 89.7%
ผู้บริหารของโนวาแวกซ์เปิดเผยว่า เมื่อได้รับอนุมัติการใช้งานวัคซีนในกรณีฉุกเฉินจาก WHO และ EMA แล้ว บริษัทจะกระจายวัคซีนดังกล่าวในยุโรปและตลาดอื่น ๆ ล่าสุด เมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) โนวาแวกซ์ระบุว่า ได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นครั้งแรกในการทดลองขั้นสุดท้ายแล้วด้วย
สำหรับสถานการณ์โควิดในปัจจุบันยังคงน่าเป็นห่วงเนื่องจากไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยหลายประเทศมุ่งเป้าไปที่การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดยล่าสุดเมื่อคืนนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต