ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา แถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่กลับไปใช้ มาตรการล็อกดาวน์ เหมือนกับที่เคยดำเนินการในเดือนมี.ค. 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก แต่เพื่อสกัดกั้นโรคระบาดดังกล่าว เขาขอความร่วมมือให้ประชาชนเร่งเข้ารับการ ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ หรือ วัคซีนเข็มสาม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต
แจกของขวัญปีใหม่ปชช. ส่วนใหญ่เกี่ยวเนื่องโควิด
สื่อต่างประเทศยังระบุด้วยว่า ผู้นำสหรัฐได้อนุมัติการแจกชุดตรวจโควิด-19 แบบ rapid test ฟรีจำนวน 500 ล้านชุดให้แก่ประชาชน ผ่านการจองทางเว็บไซต์ที่รัฐบาลจัดทำขึ้นเป็นกรณีพิเศษ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 พร้อมกันนี้จะจัดส่งบุคลากรทางการแพทย์ของรัฐบาลกลางจำนวน 1,000 คนไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆทั่วประเทศ ที่เผชิญปัญหาในการรับมือกับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโอมิครอนในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.
ถ้อยแถลงของปธน.โจ ไบเดน มีเป้าหมายที่จะบรรเทาความวิตกกังวลที่ว่า รัฐบาลอาจจะกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมาก
"สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ ไวรัสโอมิครอนกำลังแพร่ระบาดรวดเร็วกว่าที่ทุกคนคาดคิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สหรัฐมีการเตรียมการที่ดีกว่าเมื่อครั้งที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดในปีที่ผ่านมา และผมขอยืนยันว่าสหรัฐจะไม่มีการล็อกดาวน์ประเทศเหมือนกับที่เคยดำเนินการในเดือนมี.ค. 2563 เนื่องจากมีชาวอเมริกันได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจำนวนมากถึง 200 ล้านคน เรามีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี และเรามีความรู้เรื่องการรับมือมากขึ้น" ปธน.ไบเดนกล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มประสิทธิภาพในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนด้วยการเพิ่มคลินิกการฉีดวัคซีนชั่วคราวทั่วประเทศ และจะระดมบุคลากรทางการแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนให้กับประชาชนหลายพันคนที่มีการจองฉีดเพิ่มเติมในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
ยังไม่ฉีดวัคซีนมีความเสี่ยงสูงมาก
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนเตือนว่า ประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ "แม้แต่อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ก็ยังเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพื่อป้องกันตัวเองจากโรคระบาด ซึ่งนี่อาจเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่ผมและเขาเห็นพ้องต้องกัน" ไบเดนกล่าว
ถ้อยแถลงของปธน.ไบเดนเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนวันจันทร์ (21 ธ.ค.) โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจเดินทางอย่างคึกคัก ท่ามกลางความหวังที่ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจไม่ล็อกดาวน์ประเทศและมีความพร้อมในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ขณะนี้โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐแล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วน 73% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดในสหรัฐ ขณะที่สัดส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าลดลงเหลือเพียง 27% เท่านั้น
ปัจจุบัน สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อกว่า 52 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 828,000 ราย