โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของ สหรัฐอเมริกา คาดหมายว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มจะเริ่ม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ในการประชุมเดือนมี.ค.นี้ สอดคล้องกับความคาดหมายของตลาด ทั้งนี้ การปรับปรุงคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเหล่านักเศรษฐศาสตร์ เป็นผลสืบเนื่องจากการที่เฟดได้ออกมาเปิดเผยในวันพุธที่ผ่านมา (26 ม.ค.) ระบุว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และยืนยันแผนยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนเดียวกัน ซึ่ง นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดรับประกันว่าเป็นแผนที่เหมาะสมสำหรับการสกัดเงินเฟ้อ
สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันพุธที่ผ่านมาว่า เฟดจะตัดสินใจในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่จะเริ่มลดปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS)
นายเดวิด เมริเคิล และนายยาน ฮัทซีอุส นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และพ.ค. และประกาศเริ่มต้นการลดงบดุลในเดือนมิ.ย.
จากนั้น จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนก.ค.และก.ย. ก่อนจะหวนคืนสู่การดำเนินการรายไตรมาสในไตรมาส 4/2565 โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในเดือนธ.ค. โดยอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1.25% - 1.50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.00-0.25%
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2566 และปรับขึ้นดอกเบี้ยให้แตะ 2.50% - 2.75% ในปี 2567 ก่อนหน้านี้ในเดือนม.ค. โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 4 ครั้งในปีนี้และเริ่มต้นลดงบดุลในเดือนก.ค.