ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ประกาศว่า เขาจะยังคงอยู่ในกรุงเคียฟ แม้ทหารรัสเซียได้เคลื่อนรถถังและกำลังพลเข้ามาในเมืองแล้วก็ตาม ขณะเดียวกันมีประชาชนยูเครนนับแสนคนพากันอพยพหนีภัยสงครามออกนอกประเทศซึ่งรวมถึงการเดินทางทางบกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
"ผมจะยังคงอยู่ในกรุงเคียฟ และครอบครัวของผมก็จะอยู่ในยูเครนเช่นกัน ศัตรูได้หมายหัวผมเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง และครอบครัวผมเป็นเป้าหมายอันดับสอง พวกเขาต้องการทำลายกรุงเคียฟทางการเมืองด้วยการทำลายประมุขของรัฐ" นายเซเลนสกีกล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้และเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (25 ก.พ.)
ทั้งนี้ รถถังรัสเซียสามารถบุกเข้าไปยังกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเมื่อวานนี้ ท่ามกลางการระดมโจมตีทางอากาศ รวมทั้งการยิงจรวดและกระสุนปืน มีรายงานข่าวพบเห็นทหารรัสเซียลาดตระเวนอยู่ในย่านโอโบลอน ซึ่งห่างจากอาคารรัฐสภายูเครนเพียงเกือบๆ 9 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้คาดการณ์ว่ารัสเซียจะสามารถยึดกรุงเคียฟแบบเบ็ดเสร็จได้ภายในวันที่สองของการบุกโจมตียูเครน
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียอ้างว่า รัสเซียดำเนินปฏิบัติการพิเศษทางการทหารก็เพื่อปกป้องประชาชนซึ่งรวมถึงประชาชนเชื้อสายรัสเซียในยูเครนที่ตกเป็นเป้าหมายการทำลายล้างเผ่าพันธุ์โดยรัฐบาลยูเครน แต่ข้อกล่าวหาดังกล่าวได้ถูกชาติตะวันตกโต้กลับว่า เป็นเพียงข้ออ้างที่จะบุกยูเครนของผู้นำรัสเซียที่ไร้หลักฐานสนับสนุนโดยสิ้นเชิง
ผู้นำรัสเซียยังได้เรียกร้องให้กองทัพยูเครนลุกขึ้นยึดอำนาจ และทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนด้วย โดยปูตินกล่าวว่า "ผมขอเรียกร้องอีกครั้งต่อกองทัพยูเครน อย่าปล่อยให้กลุ่มนีโอ-นาซี และพวกหัวรุนแรงในยูเครนใช้ลูก ภรรยา และผู้อาวุโสเป็นโล่มนุษย์" ปธน.ปูตินกล่าวย้ำว่า หากกองทัพยูเครนยึดอำนาจจากรัฐบาลของนายเซเลนสกี ก็จะทำให้การเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนเป็นไปได้ง่ายขึ้น
นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสว่า จากข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้ เขาเชื่อว่านายเซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ยังคงอยู่ในยูเครน สหรัฐรู้สึกเป็นห่วงเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขาและมิตรของสหรัฐทุกคนในยูเครน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้ารัฐบาลหรือใครก็ตาม
"ปูติน" ย้ำรัสเซียพร้อมเจรจาเพื่อคลี่คลายวิกฤตยูเครน
สถานีโทรทัศน์ CCTV ซึ่งเป็นสื่อของทางการจีน รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) และปธน.ปูติน ผู้นำรัสเซียก็ได้กล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะเจรจาในระดับสูงกับทางการยูเครน
"สหรัฐและนาโต (องค์การสนธิสัญญาแอตแลนตกเหนือ) ได้เมินเฉยต่อความกังวลด้านความมั่นคงของรัสเซียเป็นเวลานานแล้ว และมักจะไม่ปฏิบัติตามคำสัญญา ขณะเดียวกันก็ยังคงเพิ่มกำลังทหารทางฝั่งตะวันออกและท้าทายยุทธศาสตร์ของรัสเซีย" ปูตินกล่าว
สื่อจีนระบุ ปธน.สี จิ้นผิง ได้กล่าวต่อปธน.ปูตินว่า จีนพร้อมสนับสนุนความพยายามของรัสเซียที่จะคลี่คลายวิกฤตการณ์ในยูเครนผ่านทางช่องทางการเจรจา
ทางด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเพิ่มเติมในภายหลังว่า รัสเซียพร้อมเจรจา ถ้าหากกองทัพยูเครนยอมจำนน "เราพร้อมเจรจาตลอดเวลา ทันทีที่กองทัพยูเครนตอบรับข้อเสนอของเรา และยอมวางอาวุธ"
นายลาฟรอฟยังกล่าวด้วยว่า กองทัพรัสเซียบุกเข้าไปยังยูเครนเพื่อปลดปล่อยประชาชนให้พ้นจากการถูกกดขี่ “ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินตัดสินใจใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อลดกำลังทหารของกองทัพยูเครน ซึ่งโหดร้ายเหมือนนาซี เราต้องการปลดปล่อยประชาชนให้พ้นจากการถูกกดขี่ เพื่อให้สามารถตัดสินอนาคตได้ด้วยตนเอง"
นายลาฟรอฟยังยืนยันว่า รัสเซียไม่มีความประสงค์ที่จะเข้ายึดครองยูเครน และกองทัพรัสเซียไม่ได้โจมตีบ้านเรือนของชาวยูเครนแต่อย่างใด แม้จะมีหลักฐานบ่งชี้ความเสียหายของพลเรือนยูเครนจำนวนมากก็ตาม