สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งมีเขตอาณาดูแลประเทศยูเครนด้วย โพสต์ข้อความผ่าน เพจเฟซบุ๊กของสถานทูต Royal Thai Embassy, Warsaw, Poland วันนี้ (26 ก.พ.) เปิดเผยความคืบหน้าของ ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในประเทศยูเครน ว่า คณะเจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูตฯ จำนวน 3 คน ได้เดินทางจากกรุงวอร์ซอไปถึงเมืองลวิฟ (Lviv) ของยูเครนแล้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน เรียบร้อยแล้ว (หมายเลขโทรศัพท์ +38 068 061 1879)
ขณะนี้มีคนไทย 10 คน พร้อมคู่สมรสชาวยูเครน ได้เดินทางเข้ามาพักที่ศูนย์ปฏิบัติการฯ แล้ว และมีคนไทยอีกประมาณ 20-30 คน แจ้งว่ากำลังเดินทางจากเมืองต่างๆ ในยูเครนด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถไฟ มายังเมืองลวิฟเพื่อสมทบ โดยเวลานี้ สถานการณ์ของกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวง และเมืองหลักต่างๆ ของยูเครนมีความเสี่ยงและอันตรายมากขึ้นเป็นลำดับ
ทางการยูเครนประกาศให้ประชาชนอยู่ในที่ตั้ง และหลีกเลี่ยงการเดินทางออกจากที่พัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน (หลังเวลา 22.00-07.00 น.) ทำให้ยังมีคนไทยในเมืองต่างๆ เช่น กรุงเคียฟ (Kyiv) เมืองคาคีฟ (Kharkiv) เมือง Mykolaiv (มิกโคลาอีฟ) ฯลฯ ยังต้องอยู่ในที่ตั้งเพื่อความปลอดภัย อาทิ ที่พักที่นายจ้างจัดให้ สถานที่หลบภัย สถานีรถไฟใต้ดิน ฯลฯ ตามคำแนะนำของทางการยูเครน
อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตฯ จะเตรียมจัดหารถเช่าหรือช่องทางการเดินทางสาธารณะที่เปิดให้บริการ เพื่อนำคนไทยออกมาจากพื้นที่เสี่ยงและเดินทางออกจากยูเครนให้เร็วที่สุดต่อไป
สำหรับแผนการนำคนไทยออกจากยูเครนในขณะนี้ ได้แก่
จากการที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประสานงานกับผู้แทนกลุ่มคนไทยในเมืองต่าง ๆ ของยูเครน ตั้งแต่ต้นมาจนถึงขณะนี้ พบว่า คนไทยทุกคนยังปลอดภัย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตราย
ด้านกระทรวงกลาโหม พันเอก วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเตรียมการของกระทรวงกลาโหมในการอพยพคนไทยในยูเครนกลับประเทศไทย หรือนำสู่พื้นที่ปลอดภัย ว่า มีการกำหนดไว้ 2 แผน คือ
ทั้งนี้ กองทัพอากาศ สามารถสนับสนุนโดยใช้เครื่องบิน ซี-130 จำนวน 3 ลำ 3 เที่ยวบิน ในการอพยพคนประมาณ 300 คน กลับไทย และเมื่อมาถึงแล้ว ทางกองทัพเรือ จะนำคนไทยที่กลับมาจากยูเครน ส่งต่อยังพื้นที่ควบคุมโรค หรือสถานที่กักตัวที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในความดูแลของทหารเรือต่อไป