นายยุน ซอกยอล จาก พรรคพลังประชาชน หรือ พรรคพีเพิล พาวเวอร์ (พีพีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านแนวอนุรักษ์นิยม ได้รับเลือกตั้งเป็น ประธานาธิบดีคนที่ 20 ของ เกาหลีใต้ เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) หลังเฉือนเอาชนะคู่แข่งจากพรรคเดโมเครติคของฝ่ายรัฐบาลไปได้อย่างเฉียดฉิว โดยนายยุนได้คะแนนสนับสนุน 48.6% หลังการนับคะแนนทั้งหมด (จากประชาชนที่มาใช้สิทธิ์ 99.3%) ขณะที่คู่แข่งคนสำคัญคือนาย อี แจ-มยอง จากพรรคเดโมเครติค หรือ พรรคประชาธิปไตยเกาหลี (ดีพีเค) ได้ไป 47.8%
นายยุนเกิดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2503 ที่กรุงโซล ปัจจุบันอายุ 61 ปี เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องสองคน โดยบิดามารดาของเขาเป็นอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัย เขาจบการศึกษาด้านนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลอันทรงเกียรติ และเริ่มรับราชการในตำแหน่งอัยการเมื่อปี 2537 และเคยเป็นทนายความในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อปี 2545
ต่อมาหลังจากกลับมาทำงานในสำนักงานอัยการ นายยุนมีบทบาทในการตรวจสอบนักการเมืองระดับสูงและนักธุรกิจรายใหญ่ โดยผลงานสำคัญที่ผ่านมา ได้แก่
ในเดือนพ.ค. 2560 ประธานาธิบดีมูน แจอิน ซึ่งได้รับเลือกตั้งขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนนางปาร์ค ได้แต่งตั้งนายยุนเป็นผู้อำนวยการสำนักงานอัยการประจำเขตพื้นที่กรุงโซล และแต่งตั้งเป็นอัยการสูงสุดของเกาหลีใต้เมื่อเดือนก.ค. 2562
อย่างไรก็ตาม นายยุนได้ลาออกจากตำแหน่งอัยการสูงสุดเมื่อเดือนมี.ค. 2564 และประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการในเดือนมิ.ย.ปีเดียวกัน โดยเข้าสังกัดพรรคพีเพิล พาวเวอร์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ในเดือนก.ค.2564
การได้รับชัยชนะของนายยุน ซอกยอล และพรรคพีเพิล พาวเวอร์จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของภูมิภาคเอเชียในระยะ 5 ปีข้างหน้า (วาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ คือเทอมละ 5 ปี) โดยการบริหารงานของเขาจะเริ่มอย่างเป็นทางการในเดือนพ.ค.ที่จะถึงนี้
ในเบื้องต้น นายยุนประกาศว่า เขาจะให้เกียรติรัฐธรรมนูญและรัฐสภา และจะทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน เพื่อประสานรอยร้าวทางการเมืองที่แบ่งแยกเป็นขั้ว และจะส่งเสริมความสามัคคี เขาระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็น “ชัยชนะของประชาชนผู้ยิ่งใหญ่”
“การแข่งขันได้สิ้นสุดลงแล้ว เราต้องจับมือและสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อประชาชนและประเทศชาติ” นายยุนกล่าวในถ้อยแถลงหลังได้รับทราบผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายยุน ซอกยอล อาจจะไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมากนัก เพราะเส้นทางการทำงานส่วนใหญ่มาในสายกฎหมายและการทำหน้าที่อัยการ รวมทั้งการเป็นหัวหอกสอบสวนคดีทุจริตอื้อฉาวของนักการเมืองแถวหน้าของประเทศ ดังนั้น หลังรับทราบชัยชนะ นายยุนจึงลั่นวาจาจะถอนรากถอนโคนการทุจริต ส่งเสริมความยุติรรม และแสวงหาแนวทางปรับใหม่ความสัมพันธ์กับจีน แต่สำหรับนโยบายที่มีต่อเกาหลีเหนือนั้น เขาประกาศในช่วงหาเสียงเลือกตั้งไว้แล้วว่า เกาหลีใต้ในสมัยการบริหารงานของเขา จะมีจุดยืนแข็งกร้าวกับเกาหลีเหนือมากยิ่งขึ้น