คำต่อคำ แถลงการณ์ประชุมเฟด หลังขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เดือนมี.ค.

17 มี.ค. 2565 | 03:09 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มี.ค. 2565 | 10:32 น.

ถอดเนื้อหาคำต่อคำ แถลงการของแบงก์ชาติสหรัฐ (เฟด) หลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC)เดือนมีนาคมเสร็จสิ้นลง โดยมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% แม้มีสัญญาณบ่งชี้ถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง แต่เงินเฟ้อยังคงเร่งตัวขึ้น

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เสร็จสิ้นลงในวันพุธที่ 16 มี.ค.ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ซึ่งตรงกับเช้าวันนี้ (17 มี.ค.) เวลาไทย โดยระบุว่า สัญญาณบ่งชี้ถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และอัตราว่างงานปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงเร่งตัวขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงภาวะไร้สมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ อันเป็นผลมาจากโรคระบาด ราคาพลังงานที่สูงขึ้น และแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มขึ้นเป็นวงกว้าง

 

การที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนนั้น กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั้งประชาชนและเศรษฐกิจ และยังส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอนที่สูงมาก โดยคาดว่าในระยะใกล้นี้ การรุกรานยูเครนและเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

การประชุม FOMC ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 3-4 พ.ค.2565

คณะกรรมการ FOMC พยายามหาแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว และเมื่อพิจารณาถึงการดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสม คณะกรรมการคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% และตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว คณะกรรมการได้ตัดสินใจปรับเพิ่มกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้น 0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% และคาดว่าการปรับเพิ่มกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกในวันข้างหน้านั้นจะเป็นเรื่องที่เหมาะสม นอกจากนี้ คณะกรรมการคาดว่าจะเริ่มปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในการประชุมครั้งต่อไป

 

ส่วนในการประเมินแนวทางที่เหมาะสมของนโยบายการเงินนั้น คณะกรรมการจะยังคงจับตาข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า ขณะเดียวกันคณะกรรมการจะเตรียมความพร้อมเพื่อปรับแนวทางนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เฟดไม่สามารถบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ของคณะกรรมการ โดยคณะกรรมการจะประเมินข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงข้อมูลด้านสาธารณสุข ภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ รวมถึงการพิจารณาสถานการณ์ทางการเงิน และสถานการณ์ในต่างประเทศ

สำหรับกรรมการเฟดผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ เจอโรม เอช พาวเวล ประธานเฟด, จอห์น ซี วิลเลียมส์ รองประธานเฟด, มิเชล ดับเบิลยู โบวแมน, ลาเอล เบรนาร์ด, เอสเธอร์ แอล จอร์จ, แพทริค ฮาร์เกอร์, ลอเร็ตตา เจ เมสเตอร์ และคริสโตเฟอร์ เจ วอลเลอร์

 

ส่วนผู้ที่โหวตคัดค้านการดำเนินนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้คือนายเจมส์ บูลลาร์ด เนื่องจากเขาต้องการให้เฟดปรับเพิ่มกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.50% สู่ระดับ 0.50-0.75%

 

ทั้งนี้ กำหนดการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำปี 2565 ครั้งต่อไปจนถึงสิ้นปี จะมีอีก 6 ครั้ง ดังนี้  

  • วันที่ 3-4 พ.ค.
  • วันที่ 14-15 มิ.ย.
  • วันที่ 26-27 ก.ค.
  • วันที่ 20-21 ก.ย.
  • วันที่ 1-2 พ.ย.
  • วันที่ 13-14 ธ.ค.