นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thirachai Phuvanatnaranubala วานนี้ (23 มี.ค.65) นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนและผลกระทบที่เกิดขึ้น ดังนี้
ปูตินต้อนรับโจ ไบเดนสู่ประชุมนาโต้
ขณะนี้ คะแนนนิยมของโจ ไบเดน ในด้านเศรษฐกิจตกต่ำมาก และเลือกตั้ง mid term เดือน พ.ย. 2022 ก็มีแนวโน้มจะแพ้ทั้งสภาสูงและสภาล่าง
มีประเด็นเดียวที่โจ ไบเดน ได้คะแนนนิยมสูง คือการสนับสนุนยูเครนสู้กับรัสเซีย ซึ่งคนอเมริกันติดตามเหมือนดูหนังคาวบอย
ประธานาธิบดีสหรัฐไล่ต้อนประธานาธิบดีรัสเซีย ไม่ใช้ลูกกระสุนแม้แต่ลูกเดียว แต่ใช้กติกาด้านเศรษฐกิจที่กำหนดเอาเอง
ที่ผ่านมา สหรัฐเป็นหัวหอก กระตุ้นให้ยุโรปเดินตาม บล็อคธนาคารรัสเซียออกจากระบบ swift และยึดอายัดทุนสำรองของธนาคารชาติรัสเซียไว้เกือบ 3 แสนล้านดอลลาร์
มาตรการดังกล่าว ทำให้ธนาคารชาติรัสเซียแขนขาด้วนฉับพลัน ไม่มีเครื่องมือที่จะดูแลค่าเงินรูเบิ้ล รูเบิ้ลจึงร่วงไหลลง จะกลายเป็นเศษกระดาษ
นับว่าเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยใช้มาก่อน กับประเทศขนาดใหญ่ระดับ G20 เช่นรัสเซีย
สัปดาห์หน้า โจ ไบเดนจะเดินทางไปประชุมที่ยุโรป เพื่อขันน๊อต บีบคอปูตินให้หนักขึ้นไปอีก ซึ่งจะเรียกคะแนนนิยมในสหรัฐไปด้วยในตัว
แต่เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ปูตินได้ออกมาตรการต้อนรับโจ ไบเดน เสียแล้ว
(ขอบคุณภาพจากเพจ FB: Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
ทำให้เกิดผลทันที 2 อย่าง ราคาก๊าซในตลาดเนเธอร์แลนด์พุ่งขึ้นฉับพลัน 21% และค่าเงินรูเบิ้ลแข็งขึ้นทันตาเห็น
(ขอบคุณภาพจากเพจ FB: Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
เป็นอันว่า แทบจะทั้งหมดในยุโรป อยู่ใน 48 ประเทศดังกล่าว
ขณะนี้ การชำระค่าก๊าซให้ Gazprom 58% เป็นสกุลยูโร อีก 39% เป็นสกุลดอลลาร์ เรียกได้ว่า เหลืออีกเพียง 3% ที่เป็นสกุลอื่น
(ขอบคุณภาพจากเพจ FB: Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
ถามว่า ยุโรปจะดิ้นหลุดออกจากหมากกลใหม่ของปูตินได้ไหม?
ก๊าซที่ยุโรปใช้ผลิตไฟฟ้าและทำความร้อน 40% มาจากรัสเซีย และต้องใช้เวลา 4-5 ปีกว่าจะเปลี่ยนเป็นแหล่งอื่นได้
เพราะแหล่งอื่นต้องขนส่งเข้ายุโรปทางเรือ ดังนั้น ยุโรปจึงต้องใช้เวลาอีกหลายปี ในการสร้างท่าเรือที่มีระบบท่อ เพื่อลำเลียงก๊าซออกจากเรือ ไปเก็บบนบก
ก๊าซธรรมชาติเหลว จะต้องรักษาอุณหภูมิติดลบต่ำกว่า 160 เซลเซียส และถังเก็บต้องทนแรงอัดได้สูง
(ขอบคุณภาพจากเพจ FB: Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
อธิบายแบบชาวบ้าน ยุโรปถูกมัดมือชกเสียแล้ว
ถ้าไม่ซื้อก๊าซรัสเซีย ก็จะไม่มีไฟฟ้า จะต้องปิดโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้น ยุโรปจึงต้องกัดฟัน ต้องจ่ายเป็นสกุลรูเบิ้ล
ปัญหาที่จะเกิด ก็คือ ผู้ที่จะควบคุมปริมาณเงินสกุลรูเบิ้ลในโลกนี้ มีอยู่คนเดียว คือธนาคารชาติรัสเซีย
ย้อนกลับไปวิกฤตต้มยำกุ้ง ผมจำได้ว่า เฮดจ์ฟันด์ที่โจมตีเงินบาท ตกใจอยู่ห้วงเวลาหนึ่ง ที่ธนาคารชาติของไทย ปิดตลาดเงินสกุลบาทในตลาดออฟชอร์
ทำให้อัตราดอกเบี้ยสกุลบาทในตลาดออฟชอร์ กระโดดพรวดขึ้นเป็นกว่า 1 พันเปอร์เซนต์ต่อปี!!!
ในกติกาเช่นนั้น เมื่อใดที่เฮดจ์ฟันด์ที่โจมตีเงินบาท สัญญาขายเงินบาทล่วงหน้าครบกำหนด แต่เมื่อไม่สามารถวิ่งหาซื้อเงินบาทในตลาดออฟชอร์ได้
ก็จะต้องคลานมาขอเจรจากับธนาคารชาติไทย
เมื่อนั้น ธนาคารชาติไทยจะกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแพงเท่าไหร่ก็ได้
ซึ่งถ้ามีการปิดตลาดออฟชอร์บาทเด็ดขาดจริงๆ รัฐบาลไทยก็อาจไม่จำเป็นต้องเข้าโครงการ IMF ซึ่งตั้งเงื่อนไขแบบโหดสุด
ที่ผมพาดพิงไปถึงต้มยำกุ้งนั้น เพียงเพื่ออธิบายว่า นโยบายนี้ของปูติน จะพลิกกลับความเจ็บปวดจากแซงชั่นได้ระดับหนึ่ง
ประเทศตะวันตกย่อมสามารถบีบไม่ให้รัสเซียขายสินค้าบางอย่างได้
แต่สำหรับสินค้าใดที่ประเทศตะวันตกเดือดร้อน ไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องพึ่งรัสเซีย และจะไม่สามารถพึ่งแหล่งอื่นแทนได้ง่าย
สำหรับสินค้าเหล่านี้ รัสเซียจะกลับเป็นคนบีบยุโรปเสียแทน และปูตินจะให้เงินรูเบิ้ลแข็งขึ้นอีก เท่าไหร่ก็ได้
หมายเหตุ: การกล่าวถึงชื่อบุคคลใดมิใช่เป็นการกล่าวหากระทำความผิด แต่เป็นเพื่อประกอบการบรรยายทางวิชาการเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ