ทำความรู้จัก Victory day "9 พ.ค." วันแห่งชัยชนะของรัสเซีย

09 พ.ค. 2565 | 02:08 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2565 | 09:21 น.

“วิคตอรี เดย์” (Victory day) หรือวันแห่งชัยชนะของรัสเซีย ตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคมของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญและเป็นวันหยุดประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัสเซีย เนื่องจากเป็นวันเฉลิมฉลองและรำลึกถึงชัยชนะของสหภาพโซเวียตที่มีต่อกองทัพนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง

ทุก ๆปี ใน วันแห่งชัยชนะ (Victory Day) ซึ่งตรงกับ วันที่ 9 พ.ค.จะมีการประดับธงตามอาคารบ้านเรือน และการสวนสนามอย่างยิ่งใหญ่ของ กองทัพรัสเซีย แต่ในปีนี้ จะมีความสำคัญยิ่งไปกว่านั้น เพราะขณะที่สงครามยูเครน-รัสเซีย ยังไม่สิ้นสุดลง ทุกฝ่ายจึงจับตามองความเคลื่อนไหวของ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ว่าเขาจะทำอะไรในวันนี้ และเนื้อหาสุนทรพจน์ของเขาจะส่งสารอะไรต่อประชาชนรัสเซียและชาวโลก  

 

นายแอบบาส กัลยามอฟ อดีตผู้เขียนสุนทรพจน์ให้กับปูติน กล่าวว่า ทุกคนต่างคาดหวังว่าในวันที่ 9 พ.ค. จะมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวจากทั้งฝั่งผู้สนับสนุนนายปูตินหรือฝั่งตรงข้าม ซึ่งกระแสการคาดการณ์ต่าง ๆ นานาเหล่านี้ หากไม่มีคำตอบออกมาอย่างชัดเจนก็จะถือว่า ปูตินพ่ายแพ้ในทางการเมือง

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม จากการซ้อมพิธีสวนสนามในกรุงมอสโกอย่างยิ่งใหญ่ที่จัตุรัสแดงในกรุงมอสโกเมื่อวันเสาร์ที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่โลกได้เห็นความยิ่งใหญ่ทางการทหารของรัสเซีย โดยในการซ้อมครั้งนี้ กองทัพรัสเซียได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์นานัปการ อาทิ เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินขับไล่ ปืนใหญ่ และขีปนาวุธนำวิถี มาร่วมซ้อมการสวนสนาม

ข้อมูลของกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยว่า ในพิธีสวนสนามเนื่องในวันแห่งชัยชนะปีนี้ จะมีเครื่องบิน 77 ลำของกองทัพเข้าร่วมทำการบิน รวมถึง เครื่องบินวันสิ้นโลก Il-80 Doomsday ของรัสเซียที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก กล่าวกันว่า เครื่องบินนี้สามารถต่อต้านการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ได้ นอกจากนี้ ยังจะมีเครื่องบินขับไล่ มิก-19 จำนวน 8 ลำ บินเหนือจัตุรัสแดงเป็นรูปอักษร Z สัญลักษณ์ของกองทัพรัสเซียที่ยังใช้ในการรณรงค์ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนในปัจจุบัน

 

ในระหว่างรอฟังเนื้อหาสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีปูตินในวันนี้ (9 พ.ค. 2565) เรามาทำความรู้จักประวัติและที่มาของ วันแห่งชัยชนะ หรือ Victory Day เมื่อในยุคอดีตกัน ว่าเหตุใดวันนี้จึงมีความสำคัญและกลายเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัสเซีย

วันแห่งชัยชนะ คือเครื่องหมายการยอมจำนนของนาซีเยอรมนีต่อสหภาพโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่สอง

วันแห่งชัยชนะ หรือ 9 พฤษภาคม เป็นเครื่องหมาย “การยอมจำนนของนาซีเยอรมนี” ต่อสหภาพโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่สอง (ในสหภาพโซเวียต เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มหาสงครามของผู้รักชาติ) ในอดีตนั้น มีการเฉลิมฉลองกันใน 16 รัฐภาคีที่ประกอบกันเป็นสาธารณรัฐแห่งสหภาพโซเวียต

แด่ผู้สูญเสียและผู้พลีชีพในสงคราม

ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1945 (พ.ศ.2488) ของคืนวันที่ 8 พฤษภาคม รัฐบาลเยอรมนีได้ลงนามในตราสารยอมจำนน หรือยอมรับความพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง และเนื่องจากการลงนามยอมรับความพ่ายแพ้ของกองทัพเยอรมนีเกิดในเวลาหลังเที่ยงคืน จึงเป็นวันที่ 9 พฤษภาคม ตามเวลามอสโก รัฐบาลโซเวียต (ซึ่งก็คือรัสเซียในปัจจุบัน) จึงประกาศชัยชนะในเช้าวันที่ 9 พฤษภาคมหลังพิธีลงนามในกรุงเบอร์ลิน

 

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รัสเซียต้องประสบความสูญเสียอย่างหนักเนื่องจากเป็นสมรภูมิรบที่สำคัญ กล่าวกันว่าชาวรัสเซียต้องสูญเสียชีวิตไปราว 20 ล้านคน ดังนั้น วันแห่งชัยชนะจึงเป็นวาระการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นวันแห่งการรำลึกถึงผู้ที่ต้องสูญเสียและผู้ที่พลีชีพในสงคราม วันนี้จึงมีขึ้นเพื่อยกย่องบรรพชนผู้เสียสละของรัสเซียด้วย และเมื่อวันเวลาผ่านไป วันสำคัญนี้ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือทางอุดมการณ์ของรัฐบาลรัสเซียอีกด้วย

 

ทุก ๆปีจะมีการจัดพิธีเดินสวนสนามทางทหาร ณ จัตุรัสแดงกลางเมืองในกรุงมอสโกเพื่อเป็นการแสดงแสนยานุภาพของกองทัพแดงและรำลึกเหล่าทหารผ่านศึก แม้ว่าสหภาพโซเวียตจะล่มสลายไปแล้ว แต่สหพันธรัฐรัสเซียก็ยังคงยึดถือปฏิบัติตามเดิมจวบจนปัจจุบัน และวันที่ 9 พ.ค.ปีนี้ (2565) ก็จะเป็นการฉลองครบ 77 ปี ของวันแห่งชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สอง

ทุก ๆปีจะมีการจัดพิธีเดินสวนสนามทางทหาร ณ จัตุรัสแดงกลางเมืองในกรุงมอสโก

เท่าที่โลกได้เห็นจากการซ้อมพิธีสวนสนามเมื่อวันเสาร์ (7 พ.ค.) ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมกล่าวว่า แสนยานุภาพทางอาวุธของรัสเซียนั้น ยังน่าเกรงขามและมีความทันสมัยอย่างมาก ยกตัวอย่าง เครื่องบิน Il-80 ซึ่งเป็นเครื่องบินบัญชาการวันสิ้นโลกของรัสเซียเป็นเครื่องบินที่ไม่มีกระจกหน้าต่างด้านข้างของเครื่องบิน (มีกระจกเฉพาะห้องนักบินเท่านั้น) ถูกออกแบบให้เป็นศูนย์บัญชาการรบสำหรับประธานาธิบดีรัสเซีย ภายในอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งถูกเก็บงำเป็นความลับสุดยอด

 

นอกจากนี้  รัสเซียยังได้นำ ขีปนาวุธนำวิถีรุ่นใหม่ที่ติดหัวรบอาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์ (Thermonuclear) RS-24 Yars มาร่วมในขบวนพาเหรดสวนสนามวันฉลองวันแห่งชัยชนะของปีนี้ด้วย ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ขีปนาวุธนำวิถีติดหัวรบอาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์ RS-24 Yars ที่มีน้ำหนักถึง 49.6 ตันนี้ สามารถเดินทางได้ด้วยความเร็วสูงถึง 24,500 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถยิงเป้าหมายที่อยู่ไกลถึง 12,000 กิโลเมตร ซึ่งนั่นหมายความว่า ขีปนาวุธดังกล่าวสามารถโจมตีกรุงลอนดอน และนิวยอร์กโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

 

นักวิเคราะห์พากันตีความว่า การนำเครื่องบิน Il-80 ที่สามารถป้องกันการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ รวมทั้งขีปนาวุธนำวิถีรุ่นใหม่ที่ติดหัวรบอาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์และสามารถโจมตีเมืองใหญ่ หัวใจของอังกฤษและสหรัฐอเมริกาได้ในเวลาชั่วพริบตา ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่เป็นการส่งสัญญาณว่า หากถูกกดดันในสงครามยูเครน สถานการณ์ก็อาจลุกลามนำไปสู่การเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นได้ ..รัสเซียเตือนแล้วนะ