สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ รอดพ้นจาก การลงมติไม่ไว้วางใจ ของ ส.ส.พรรคของตัวเองซึ่งก็คือ พรรคอนุรักษ์นิยม เมื่อวันจันทร์(6 มิ.ย.) อย่างไม่พลิกความคาดหมาย แต่ความต่างของคะแนนที่ออกมาถือว่าน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้มาก
การลงมติไม่ไว้วางใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความไม่พอใจในตัวนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ในประเด็นที่เขาและสมาชิกพรรคละเมิดกฎการควบคุมโควิด-19 และจัดงานปาร์ตี้หลายครั้งที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี หรือ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิง
ผลคะแนนลงมติครั้งนี้ชี้ชัดว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนุรักษ์นิยมของนายจอห์นสันโหวตสนับสนุนเขา 211 เสียง และไม่สนับสนุนถึง 148 เสียง ซึ่งหมายความว่า ส.ส.ของพรรครัฐบาลเกือบครึ่ง ไม่สนับสนุนนายจอห์นสันอีกแล้ว หลังจากที่เขาได้นำพาพรรคอนุรักษ์นิยมชนะการเลือกตั้งทั่วไปอย่างถล่มทลายเมื่อ 3ปีที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า การลงมติไม่ไว้วางใจเริ่มขึ้นในเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากจอห์นสันเรียกร้องให้ส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยมสนับสนุนเขาต่อไป พร้อมย้ำเตือนว่า ตัวเขานั้นเป็นผู้นำพาพรรคให้ชนะการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปี
รายงานข่าวระบุว่า แม้ว่านายจอห์นสันจะได้รับชัยชนะในการโหวตไม่ไว้วางใจ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะพ้นวิกฤติ เพราะเสียงสนับสนุนที่เขาได้รับน้อยกว่าเสียงสนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ เมื่อครั้งที่มีการลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ เมื่อปี 2561 เสียอีก ซึ่งครั้งนั้นเมย์รอดการลงมติไม่ไว้วางใจ แต่เธอก็ต้องลาออกในอีก 6 เดือนถัดมา เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนในรัฐสภา
นอกจากนี้ นายจอห์นสันยังต้องเผชิญความท้าทายในอีกสนาม นั่นคือการเลือกตั้งซ่อม 2 เขตในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่แทนที่ ส.ส.พรรคอนุรักษนิยม 2 คนที่ถูกบีบให้ลาออกเพราะเรื่องอื้อฉาวของตัวเอง ซึ่งหากผลลัพธ์ออกมาน่าผิดหวัง จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้แก่นายจอห์นสันมากขึ้นไปอีกก่อนจะถึงการเลือกตั้งครั้งใหญ่ทั่วประเทศใน 2 ปีข้างหน้า (2567)