เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แรงสุดในรอบ 28 ปี! พร้อมส่งสัญญาณขึ้นอีก 1.75% ในปีนี้

15 มิ.ย. 2565 | 19:02 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มิ.ย. 2565 | 06:32 น.

เฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด พร้อมทั้งส่งสัญญาณจะขึ้นอีก 1.75% ในปีนี้ ด้านกูรูการเงินแนะ เฟดควรขึ้นดอกเบี้ยไปเลย 1% เป็นการอัดยาแรงแต่เนิ่นๆ เพื่อสกัดเงินเฟ้อให้อยู่หมัด เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็วขึ้น และมีแนวโน้มลดลงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมวานนี้ (15 มิ.ย.) ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้

 

การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดครั้งนี้ เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537 เป็นต้นมา 

เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่สุดในรอบ 28 ปีวานนี้ (15 มิ.ย.)

คณะกรรมการ FOMC ทุกรายเห็นชอบต่อมติดังกล่าว ยกเว้นนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ ที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50%

 

นอกจากนี้ ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปี 2565 นอกจากนี้ ยังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในสิ้นปีหน้า (2566)

 

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดครั้งนี้ มีขึ้นหลังจาก ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี โดยเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนี CPI (ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค) พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3% และถือว่าเพิ่มขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2524 เป็นต้นมา 
 

แถลงการณ์ของเฟดยังระบุว่า เฟดจะทำการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ในวงเงิน 47,500 ล้านดอลลาร์/เดือน หลังจากที่ได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. และนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2565 เฟดจะเพิ่มวงเงินในการลดขนาดงบดุลเป็น 2 เท่า สู่ระดับ 95,000 ล้านดอลลาร์/เดือน
 

กูรูแนะเฟดควรจะขึ้นดอกเบี้ยไปเลย 1.00% 

ก่อนหน้าการประกาศมติขึ้นดอกเบี้ยของที่ประชุม FOMC นายเจเรมี ซีเกล ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านการเงินของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ให้ความเห็นว่า ในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ไปเลย เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อให้อยู่หมัด


"เฟดจำเป็นต้องจัดการกับเงินเฟ้อ โดยเฟดรู้ดีว่ากำลังแก้ไขปัญหาสายเกินไป คุณจำเป็นต้องกินยาเพื่อให้หายโรค ถ้าคุณไม่กินตอนนี้ วันหลังคุณก็ต้องกินยาแรงขึ้นอีกอยู่ดี" นายซีเกลกล่าวในรายการ "Squawk Box Asia" ของสำนักข่าว CNBC 


นอกจากนี้ เขายังเห็นว่านายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด สามารถอ้างความชอบธรรมในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 1.00% ว่าเป็นการรวมคาดการณ์เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนนี้ (มิ.ย.) และ 0.50% ในเดือนหน้า (ก.ค.) เข้าด้วยกัน

นายซีเกล ซึ่งเป็นกูรูการเงินเชื่อว่า หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยที่ไม่รุนแรงในครั้งนี้ ก็จะทำให้ตลาดมองว่าเฟดนั้น ไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้

 

"หากนายพาวเวลล์ขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% ผมคิดว่าจะสร้างความผิดหวังต่อตลาด โดยตลาดจะมองว่าเขาไม่สามารถคุมเงินเฟ้อ และดำเนินการที่ไม่เร็วพอ แต่หากเฟดจัดการปัญหาเงินเฟ้อถึงต้นตอก็จะทำให้ตลาดพุ่งขึ้นได้ ซึ่งผมคิดว่าตลาดใกล้แตะระดับต่ำสุดแล้ว โดยตลาดจะทะยานขึ้น เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่เฟดประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย" นายซีเกลกล่าว

 

"ถ้าเราใช้ยาแรงแต่เนิ่นๆ เราก็จะฟื้นตัวเร็วขึ้น และมีแนวโน้มลดลงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า" นายซีเกลยังเสริมด้วยว่า ถ้าเฟดดำเนินการอย่างแข็งกร้าวในวันนี้ เงินเฟ้อก็จะอ่อนตัวลงภายในสิ้นปี (2565) และหากราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มเข้าสู่ภาวะหมีตามตลาดหุ้น เศรษฐกิจสหรัฐก็จะอยู่ในสถานะที่สามารถควบคุมเงินเฟ้อไว้ได้

 

ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดประจำปี 2565 ครั้งต่อไป มีกำหนดดังนี้

วันที่ 26-27 ก.ค.

วันที่ 20-21 ก.ย.

วันที่ 1-2 พ.ย.

วันที่ 13-14 ธ.ค.