บิลลี่ ไอลิช (Billie Eilish) นักร้อง นักแต่งเพลง พ่วงตำแหน่งนางแบบอีกอาชีพ เป็นชาวอเมริกัน เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2001 (พ.ศ.2544) มีชื่อจริงแบบเต็ม ๆ ว่า บิลลี ไอลิช ไพเรต เบร์ด โอคอนเนลล์ (Billie Eilish Pirate Baird O'Connell) ปัจจุบันอายุ 20 ปี เธอเริ่มฉายแสงความเป็นศิลปินให้โลกรู้จักในปี 2016 หลังปล่อยซิงเกิ้ลแรก "Ocean Eyes"
บิลลี่คว้ารางวัลแรกบนเวที Grammy Awards 2020 เมื่ออายุเพียง 19 ปีเท่านั้น โดยเธอสามารถคว้ารางวัลจากเวทีนี้ถึง 4 รายการ ได้แก่
ส่งผลให้บิลลี่ ไอริช ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินคนแรกในหน้าประวัติศาสตร์ที่สามารถกวาดรางวัลไปได้ถึง 4 รายการในเวทีเดียวกัน ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าจะได้รับรางวัล เพราะเพลง Bad Guy ที่เธอแต่งเอง และได้รับรางวัล Song of the Year หรือบทเพลงแห่งปี ในปีนั้น เป็นเพียงเพลงที่เธอแต่งเล่นๆ สนุกๆกับพี่ชาย
หลายคนอาจไม่รู้ว่า เบื้องหลังความสำเร็จของสาวน้อยมากความสามารถในวงการเพลงคนนี้ ซึ่งเธอบอกเองว่า ถ้าไม่มี “เขา” คงไม่มีเธอในวันนี้ คนๆนั้นซึ่งเป็นลมใต้ปีกของเธอ ก็คือ ฟินนีส โอคอนเนลล์ (Finneas O'Connell) พี่ชายแท้ๆของเธอนั่นเอง
“เรารู้ใจกันโดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก เขามองเห็นหนูในแบบที่หนูเป็นจริงๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตการเป็นศิลปินของหนู” บิลลี่เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพี่ชายว่าอย่างนั้น เบื้องหลังความสำเร็จของเธอไม่ใช่โปรดิวเซอร์ชื่อดัง แต่เป็นคนในครอบครัวที่เป็นคนสนิทและเข้าใจเธอดีอย่างพี่ชายคนนี้ ทำให้เพลงของเธอแต่ละเพลง มีความเป็นตัวของตัวเองสุด ๆ
แม้ว่าเธอจะเป็นศิลปินคนดังที่อายุน้อยคนหนึ่ง แต่เส้นทางการเป็นนักร้องของเธอกว่าจะประสบความสำเร็จในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บิลลี่เกิดที่ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอเป็นลูกสาวของแม็กกี้ เบร์ด และ แพทริค โอคอนเนลล์ ทั้งพ่อและแม่ของเธอเป็นบุคคลในวงการบันเทิง ชื่อ “ไอลิช” ที่เธอใช้ในวงการมาจากภาษาไอริช ที่หมายความว่า "เอลิซาเบธ" เนื่องจากเธอมีบรรพบุรุษเป็นชาวไอริชและสกอตแลนด์
เธอรับการศึกษาแบบโฮมสคูลจนอายุ 8 ปีจึงได้เข้าร่วมวงคอรัสเยาวชน Los Angeles Children's Chorus ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้บิลลี่ได้เริ่มร้องเพลงตั้งแต่ยังเด็ก เธอเริ่มเขียนเพลงตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยมีฟินนีส พี่ชาย เป็นไอดอลต้นแบบ เพราะฟินนีสเองก็ได้เริ่มเขียนเพลงและโปรดิวซ์เพลงของตัวเองให้กับวงดนตรีของเขาไปก่อนหน้าแล้ว
อีพีแรกของบิลลี่ ไอลิช มีชื่อว่า Don't Smile at Me (พ.ศ. 2560) ติดในท็อป 15 ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย ตามมาด้วยซิงเกิล "Bellyache" ไอลิชยังได้ร่วมงานกับ “คาลิด” นักร้องชาวอเมริกัน ในซิงเกิล "Lovely" ออกจำหน่ายในเดือนเมษายน 2560 และอยู่ในอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ในซีซันที่ 2 ของซีรีส์ “13 Reasons Why”
สตูดิโออัลบั้มแรก เป็นสตูดิโออัลบั้มเปิดตัวที่ชื่อ When We All Fall Asleep, Where Do We Go? (พ.ศ. 2562) ขึ้นอันดับ 1 บนบิลบอร์ด 200 รวมถึงสหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย อัลบั้มมี 4 ซิงเกิลที่ติดใน 40 อันดับของอเมริกา คือ
ในปี 2020 ไอลิชได้ร่วมเขียนและร้องเพลง No Time to Die สำหรับเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เจมส์บอนด์ในชื่อเดียวกัน ซึ่งเพลงดังกล่าวได้รับรางวัลออสการ์สาขาเพลงยอดเยี่ยมแห่งปีด้วย เธอกลายเป็นศิลปินอายุน้อยที่สุด ที่ได้เขียนและร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เจมส์บอนด์ ปีเดียวกันนั้น เธอได้ออกซิงเกิล Everything I Wanted , My Future , Therefore I Am และ Your Power
ในวันที่ 30 ก.ค. 2021 ไอลิชปล่อยสตูดิโออัลบั้มลำดับที่สองในชื่อ Happier Than Ever ซึ่งประกอบด้วยเพลง 16 เพลง (มี 3 เพลงที่ไอลิชได้ออกเป็นซิงเกิลก่อนหน้านี้แล้ว ได้แก่ My Future , Therefore I Am และ Your Power)
นอกจาก 7 รางวัลแกรมมี่แล้ว เธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึง 10 สาขารางวัล และเพลงของเธอมียอดสตรีมมากกว่า 73 พันล้านครั้งทั่วโลก บิลลี่ ไอลิช เป็น 1 ในซูเปอร์สตาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 นับตั้งแต่การเปิดตัวซิงเกิลแรกของเธอ (Ocean Eyes ในปี 2015) นักวิจารณ์กล่าวว่า เธอทำลายเพดานทางดนตรีด้วยเสียงร้องที่ท้าทายแนวเพลงของเธอ และก้าวข้ามกำแพงไปได้อย่างรวดเร็ว
สิงหาคมนี้ บิลลี่ ไอลิชจะเดินทางมาเปิดการแสดงในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งคอนเสิร์ตของเธอที่กรุงเทพจะมีขึ้นในวันพุธที่ 24 สิงหาคม ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี จัดโดยไลฟ์ เนชั่น เทโร
โชว์นี้จะเป็นการแสดงสดครั้งแรกของเธอในภูมิภาคเอเชียหลังจากเปิดตัวอัลบั้มชุด Happier Than Ever ที่ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตอัลบั้มทั่วโลก และได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์เพลงมากมาย