สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของ สหรัฐอเมริกา อนุมัติให้ใช้ วัคซีนจินนีออส (Jynneos) จากบริษัทบาวาเรียน นอร์ดิก (Bavarian Nordic) ของประเทศเดนมาร์กสำหรับฉีด ป้องกันโรคฝีดาษลิง ในกลุ่มผู้ใหญ่ เพื่อเพิ่มปริมาณวัคซีนให้เพียงพอในสหรัฐท่ามกลางการแพร่ระบาดที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐเปิดเผยในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคาร (9 ส.ค.) ว่า การอนุมัติวัคซีนจินนีออสจะช่วยให้มีวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่า โดยวัคซีนชนิดนี้ใช้เพียงส่วนหนึ่งของโดสแต่ให้การป้องกันในระดับเดียวกันกับวัคซีนตัวอื่น ๆ ที่ใช้อยู่
รายงานระบุว่า วัคซีนจินนีออสได้รับการอนุมัติเพื่อฉีดป้องกันโรคฝีดาษและฝีดาษลิงในคนกลุ่มเสี่ยงที่อายุ 18 ปีขึ้นไปเมื่อปี 2562 ซึ่งตามข้อมูลการอนุมัติที่ออกมาในตอนแรกนั้น วัคซีนชนิดนี้จะฉีดเข้าใต้ผิวหนังเป็นจำนวน 2 โดส โดยฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์
รายงานข่าวระบุว่า การอนุมัติของ FDA เกิดขึ้น หลังจากที่ สหรัฐอเมริกา และ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ในเดือนสิงหาคมและกรกฎาคม ตามลำดับ
นอกจากนี้ FDA ยังอนุมัติให้ใช้วัคซีนดังกล่าวในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อฝีดาษลิง โดยให้ฉีดเข้าใต้ผิวหนังเช่นกัน และ FDA จะยังคงยึดแนวทางนี้สำหรับการฉีดวัคซีนในเด็กด้วย เนื่องจากสะดวกต่อการฉีดและยังไม่มีข้อมูลที่มากพอ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จนถึงปัจจุบันพบไวรัสฝีดาษลิงใน 80 ประเทศ (นอกทวีปแอฟริกา ซึ่งฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่นอยู่แล้ว) และมียอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกราว 26,500 ราย ขณะที่ในสหรัฐพบผู้ติดเชื้อราว 8,900 ราย นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกในช่วงกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา