จีนกำลังจับตา เชื้อไวรัส “เลย์วี” โดย บีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมระบุว่า ไวรัสชนิดใหม่นี้เกิดขึ้นในพื้นที่ทางตะวันออกของจีนที่พบว่าแพร่ระบาดในสัตว์อย่างหนูผีโดยล่าสุดพบติดเชื้อในมนุษย์แล้ว 35 ราย
รายงานระบุว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสลางยาเฮนิปาห์ (Langya henipavirus) หรือ เลย์วี (LayV) จำนวน 35 รายในมณฑลชานตง และมณฑลเหอหนาน โดยส่วนใหญ่มีอาการไข้ อ่อนเพลียและไอ คาดว่าจะมีการติดเชื้อไวรัสจากสัตว์ และยังไม่มีหลักฐานว่าเลย์วี แพร่ระบาดจากคนสู่คนในเวลานี้
วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ โดยนักวิจัยจากจีน สิงคโปร์ และออสเตรเลีย โดย หวัง หลินฟา หนึ่งในนักวิจัยจากประเทศสิงคโปร์ ระบุกับ โกลบอลไทม์ ว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสเลย์วี ที่พบในเวลานี้ไม่ได้มีอาการรุนแรงและเสี่ยงถึงชีวิต ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก
นักวิจัยระบุว่า ยังคงต้องจับตาต่อไปเนื่องจากไวรัสจำนวนมากที่อยู่ในธรรมชาตินั้นอาจส่งผลให้เกิดอาการที่ไม่สามารถคาดเดาได้
นักวิจัยระบุว่าพบไวรัสเลย์วี ใน “หนูผี” 27% ที่นำมาทดสอบ แสดงให้เห็นว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กคล้ายตัวตุ่น อาจเป็นพาหะนำโลกตามธรรมชาติของไวรัส นอกจากนี้ยังพบไวรัสในสุนัขราว 5% และพบในแพะอีก 2% ด้วยฃ
ทั้งนี้ไวรัสเลย์วี เป็นไวรัสนิปาห์ชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในกลุ่มไวรัสที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ ไวรัสชนิดนี้เริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปทั่วโลก ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020
ด้าน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) สหรัฐ ระบุว่านักวิทยาศาสตร์ประมาณการณ์เอาไว้ว่าไวรัสชนิดใหม่ 3 จาก 4 ชนิดที่เกิดขึ้นในมนุษย์นั้นจะมาจากสัตว์ ขณะที่องค์การสหประชาชาติ เคยออกมาเตือนแล้วว่าโลกจะพบกับการแพร่ระบาดที่เกิดจากไวรัสที่มีต้นกำเนิดจากสัตว์มากขึ้น