หน่วยงาน MHRA ซึ่งเป็น หน่วยงานกำกับกิจการยาของอังกฤษ ได้อนุมัติการใช้ วัคซีนไบเวเลนต์ (bivalent) หรือวัคซีนที่ทำหน้าที่กระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อแอนติเจน 2 ตัวที่ต่างกันได้พร้อมกัน ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทเวชภัณฑ์ โมเดอร์นา (Moderna) เพื่อใช้กระตุ้นภูมิสำหรับผู้ใหญ่
การอนุมัติการใช้วัคซีนตัวนี้เกิดขึ้นหลัง MHRA พิจารณาผลการทดลองในคลินิกที่แสดงให้เห็นว่า วัคซีนบูสเตอร์นี้กระตุ้น “การตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง” ต่อทั้งโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์โอมิครอนได้ และจากบทวิเคราะห์การทดลองที่ระบุว่า วัคซีนนี้ช่วยสร้างการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่ดีต่อไวรัสกลายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ได้ด้วย
MHRA ระบุว่า ทางหน่วยงานไม่มีข้อกังวลใด ๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้วัคซีนแบบใหม่นี้
ขั้นตอนหลังจากนี้ คณะกรรมการร่วมด้านวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน (Joint Committee on Vaccination and Immunization - JCVI) จะเป็นผู้พิจารณารายละเอียดทั้งหมดเพื่อออกคำแนะนำสำหรับการแจกจ่ายวัคซีนนี้ต่อไป
ขณะเดียวกัน สำนักงานยายุโรป (European Medicines Agency – EMA) คาดว่า จะอนุมัติวัคซีนที่ดัดแปลงมาจากโคโรนาไวรัสที่กลายพันธุ์เพื่อใช้งานในสหภาพยุโรป (อียู) ภายในเดือนกันยายนนี้
ส่วนสหรัฐอเมริกา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานจะหาทางผนวกไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 เข้ากับวัคซีนที่แจกจ่ายในประเทศด้วยเช่นกัน
รายงานข่าวระบุว่า นอกจากโมเดอร์นาแล้ว บริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) และบิออนเทค (BioNTech) ก็กำลังทำการทดสอบวัคซีนของตนที่ได้รับการดัดแปลงมาเพื่อรับมือกับไวรัสโอมิครอนอยู่ด้วยเช่นกัน