thansettakij
รถไฟเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง คืบหน้า จีนทยอยส่งตัวรถ ถึงอินโดฯสิ้น ส.ค.นี้  

รถไฟเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง คืบหน้า จีนทยอยส่งตัวรถ ถึงอินโดฯสิ้น ส.ค.นี้  

22 ส.ค. 2565 | 06:25 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ส.ค. 2565 | 13:37 น.

โครงการรถไฟความเร็วสูงเฟสแรกของอินโดนีเซียที่จะเป็นเส้นทางระหว่างเมืองหลวงจาการ์ตา และเมืองบันดุง มีความคืบหน้า โดยจีนได้เริ่มทยอยส่งตัวรถไฟและระบบฯ ให้อินโดนีเซียทางเรือ คาดว่าจะถึงภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้

สื่อต่างประเทศรายงานความคืบหน้าของ โครงการรถไฟฟ้าโดยสารความเร็วสูง เฟสแรกของ อินโดนีเซีย ว่าทางพันธมิตรโครงการ คือฝ่าย จีน ได้เริ่มการจัดส่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงดังกล่าว รวมทั้งระบบตรวจสอบรถไฟที่ผลิตสำหรับทาง รถไฟความเร็วสูง เส้นทางวิ่งระหว่าง เมืองจาร์กาตา-บันดุง ให้กับอินโดนีเซียแล้ว โดยสินค้าเดินทางออกจากท่าเรือชิงเต่า มณฑลซานตงทางภาคตะวันออกของประเทศจีน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 ส.ค.)

 

สำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของจีนรายงานว่า บริษัทซีอาร์อาร์ซี ชิงเต่า ซื่อฟาง โค จำกัด เป็นผู้ออกแบบและผลิตรถไฟดังกล่าว เพื่อใช้ในโครงการสำคัญภายใต้ความริเริ่ม Belt and Road Initiative หรือ BRI ของจีน ที่รู้จักกันในนาม “เส้นทางสายไหมยุคใหม่”

จีนทยอยส่งตัวรถไฟและระบบฯให้อินโดนีเซียแล้วทางเรือ คาดว่าจะได้รับมอบสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ จีนทยอยส่งตัวรถไฟและระบบฯให้อินโดนีเซียแล้วทางเรือ คาดว่าจะได้รับมอบสิ้นเดือนสิงหาคมนี้

ทั้งนี้ รถไฟชุดแรกมีกำหนดเดินทางถึงกรุงจาการ์ตาภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ จากนั้นฝ่ายจีนจะมีการจัดส่งรถไฟส่วนที่เหลือโดยแบ่งออกเป็นชุด ๆ จนกว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงต้นปีหน้า ( พ.ศ.2566)

 

ด้วยการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยของรถไฟหัวกระสุนฟู่ซิง รถไฟดังกล่าวจึงมีความเร็วในการเดินรถสูงสุด 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยได้รับการออกแบบและผลิตตามมาตรฐานจีน โดยประยุกต์ให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมการดำเนินงานระดับท้องถิ่นและสอดคล้องกับเงื่อนไขต่าง ๆ ในอินโดนีเซีย รวมถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วย

 

สำหรับข้อมูลสังเขปของเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่จะวิ่งระหว่างเมืองจาการ์ตา-เมืองบันดุง นั้น มีระยะทางทั้งสิ้น 142 กิโลเมตร เป็นการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงจาการ์ตา เมืองหลวง  และเมืองบันดุง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวเลื่องชื่อในอินโดนีเซีย

เป็นที่คาดหมายว่า การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นทางดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิ.ย.ปีหน้า (2023) เมื่อเปิดใช้บริการ จะทำให้สามารถย่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างทั้งสองเมืองจากเดิมกว่า 3 ชั่วโมง เหลือเพียงประมาณ 40 นาทีเท่านั้น ทั้งขบวนรถสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 601 คน มีตู้รถเฟิร์สต์คลาส 1 ตู้ ตู้สเบียงอาหาร 1 ตู้ และตู้โดยสารชั้นสอง 6 ตู้