กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ประกาศวานนี้ (29 ส.ค.)ว่า การซ้อมรบ ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ “วอสตอก 2022” (Vostok 2022) ทางภาคตะวันออกของประเทศรัสเซีย จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-7 กันยายน ในหลายพื้นที่ทั้งในแถบตะวันออกไกลและทะเลญี่ปุ่น โดยจะมีทหารเข้าร่วมมากกว่า 50,000 นาย หน่วยอาวุธเคลื่อนที่มากกว่า 5,000 หน่วย รวมทั้งเครื่องบิน 140 ลำ เรือรบ 60 ลำ เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล เครื่องบินลำเลียงทางทหาร และทหารพลร่ม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประเทศพันธมิตรที่จะส่งกองกำลังทหารเข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้ ได้แก่ บรรดาประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตหลายประเทศ นอกจากนี้ ยังมีทหารจากจีน อินเดีย ลาว มองโกเลีย นิคารากัว และซีเรีย เข้าร่วมด้วย
ทั้งนี้ กองทัพเรือรัสเซียและจีนจะร่วมฝึกในทะเลญี่ปุ่นเพื่อปกป้องการสื่อสารทางทะเล กิจกรรมทางเศรษฐกิจทางทะเล และสนับสนุนหน่วยรบภาคพื้นดิน
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ กองทัพรัสเซียเน้นย้ำการซ้อมรบครั้งนี้คือ ส่วนหนึ่งของแผนการฝึกรบที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องแม้รัสเซียกำลัง "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" อยู่ในยูเครนก็ตาม
การซ้อมรบครั้งใหญ่ดังกล่าวสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางทหารที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียกับจีนในช่วงที่รัสเซียส่งกำลังทหารรุกรานยูเครน ซึ่งที่ผ่านมา จีนปฏิเสธการประณามการกระทำของรัสเซีย และยังตำหนิชาติตะวันตกที่ใช้มาตรการลงโทษต่อรัสเซีย ขณะที่รัสเซียเองก็สนับสนุนจีนอย่างเต็มที่ท่ามกลางความตึงเครียดกับสหรัฐอเมริกา สืบเนื่องจากกรณีที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อต้นเดือนส.ค.นี้ ซึ่งสร้างความเดือดดาลให้กับจีนเป็นอย่างมาก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัสเซียและจีนได้ซ้อมรบร่วมกันหลายครั้ง ทั้งในทะเลญี่ปุ่น และทะเลจีนตะวันออก ล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว (2564) รัสเซียได้ส่งทหารไประจำการในเขตพรมแดนของจีนเป็นครั้งแรกเพื่อทำการซ้อมปฏิบัติการทหารร่วมกัน
แม้ตลอดช่วงที่ผ่านมา รัสเซียและจีนต่างปฏิเสธความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง “กลุ่มพันธมิตรทางทหาร” ขึ้นมาใหม่ แต่ในระยะหลังนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ก็ได้ออกมาแย้มว่า เรื่องดังกล่าวยังมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้จริง และรัสเซียเองก็ได้แบ่งปันเทคโนโลยีระดับสูงทางการทหารกับจีนมาโดยตลอด