“คารีน ฌอง ปิแอร์” โฆษกทำเนียบขาว แถลงยืนยันวานนี้ (28 ต.ค.) ว่า นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเดินทางมาร่วม การประชุมผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.นี้
ในส่วนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน นั้น โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า ผู้นำสหรัจะเดินทางเยือนประเทศอียิปต์ในวันที่ 11 พ.ย. เพื่อเข้าร่วมประชุม COP 27 ที่เมืองชาร์ม เอล ชีค โดยปธน.ไบเดนจะใช้ที่ประชุมดังกล่าวในการต่อยอดการทำงานของสหประชาชาติในการผลักดันประเด็นการต่อสู้กับปัญหาสภาพภูมิอากาศของโลก
ลำดับต่อจากนั้น ผู้นำสหรัฐจะเยือนกัมพูชาระหว่างวันที่ 12-13 พ.ย. เพื่อประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ปธน.ไบเดนจะยืนยันถึงพันธกรณีที่มีมาอย่างยาวนานของสหรัฐต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับอาเซียน ในการรับประกันเรื่องความมั่นคงและความมั่งคั่งของภูมิภาค
หลังจากนั้น เขาจะเดินทางต่อไปยังอินโดนีเซียระหว่างวันที่ 13-16 พ.ย. เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (G 20) ที่เกาะบาหลี ซึ่งปธน.ไบเดนและผู้นำประเทศสมาชิก G20 จะถกหลากหลายประเด็นโลก อาทิ การรับมือกับความท้าทายที่สำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ผลกระทบต่อโลกจากสงครามของรัสเซียในยูเครน รวมถึงเรื่องพลังงานและความมั่นคงด้านอาหาร และความจำเป็นเร่งด่วนอื่น ๆ ที่มีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลก
ด้านรองประธานาธิบดีแฮร์ริส จะเป็นตัวแทนของไบเดน เดินทางมาที่กรุงเทพ เพื่อเข้าร่วมการประชุมกับผู้นำเอเปคในระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. โดยการมีส่วนร่วมของรองประธานาธิบดีสหรัฐจะเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐ รวมถึงพูดถึงเป้าหมายสำหรับการเป็นเจ้าภาพเอเปกของสหรัฐในปี 2566 ด้วย
ขณะที่เยือนประเทศไทยรองประธานาธิบดีสหรัฐยังจะได้พบกับผู้นำไทยและตัวแทนภาคประชาสังคม เพื่อยืนยันและเสริมสร้างความเข้มแข็งของการเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐและไทย รวมถึงเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือต่างๆ หลังจากนั้น เธอจะเดินทางไปเยือนกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
ระหว่างการเยือนไทยครั้งนี้นายดักลาส เอ็มฮอฟ สุภาพบุรุษหมายเลขสอง (สามีของนางคามาลา แฮร์ริส) จะเดินทางมากรุงเทพด้วย และจะเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นสำหรับคู่สมรสของผู้นำเอเปคที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้