ตั้งแต่วันอังคารเป็นต้นมา (6 ธ.ค.2565) ทางการจีน ได้ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 โดยอนุญาตชาวกรุงปักกิ่งเมืองหลวงของจีน ให้เข้าถึงสวนสาธารณะ ซูเปอร์มาร์เก็ต อาคารสำนักงาน และสนามบิน ได้โดยไม่ต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบ ทั้งยังมีรายงานข่าวว่าวันนี้ (7 ธ.ค.) จีนจะประกาศ 10 มาตรการใหม่เกี่ยวกับการสกัดกั้นการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่อนคลายลง หลังจากที่ประชาชนลุกฮือขึ้นประท้วงมาตรการควบคุมที่เข้มงวดเป็นเวลากว่าสัปดาห์
การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดของทางการจีนในช่วงที่ผ่านมา มีขึ้นหลังจากการประท้วงใหญ่ในหลายเมืองทั่วประเทศ ซึ่งนับเป็นอารยะขัดขืนครั้งใหญ่ที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อปีพ.ศ. 2555
ทั่วโลกกำลังจับตาว่า จีนใกล้จะยกเลิก นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid) และ เปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ แล้วหรือไม่? เรามาติดตามดู ไทม์ไลน์ กันว่า การผ่อนคลายการควบคุมการแพร่ระบาดที่อาจจะนำไปสู่การเปิดประเทศจีนอย่างเต็มที่นั้น มีลำดับความเป็นมาอย่างไรบ้าง
วันที่ 20 พ.ย. 65
เพียงวันเดียว มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ในจีนถึง 26,824 ราย ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงระบาดหนักเมื่อเดือน เม.ย. ปีเดียวกัน นอกจากนี้ ที่กรุงปักกิ่งเมือหลวง ยังมีรายงานข่าวผู้เสียชีวิตจากโควิดรายแรกในรอบ 6 เดือน โดยเขาเป็นชายชาวปักกิ่งอายุ 87 ปี เริ่มแสดงอาการป่วยในวันศุกร์ที่ 11 พ.ย. ก่อนอาการทรุดหนักจนเสียชีวิตในวันที่ 19 พ.ย. หลังจากนั้น ในเวลาไล่เลี่ยกัน มีการยืนยันผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มอีก 2 ราย
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำชับให้ประชาชนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเพื่อลดการแพร่เชื้อ ร้านค้าและร้านอาหารจำนวนมากในเขตเฉาหยาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในปักกิ่ง ปิดให้บริการชั่วคราว ขณะที่โรงเรียนหลายแห่งในเขตดังกล่าวกลับไปทำการเรียนการสอนทางออนไลน์ ชาวปักกิ่งจำนวนมากเร่งกักตุนอาหาร และเผชิญปัญหาเรื่องบริการจัดส่งสินค้าล่าช้า
วันที่ 21 พ.ย. 65
ในเมืองกว่างโจว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดในประเทศจีน โดยคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศ (ที่มีจำนวน 24,215 ราย) เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบังคับใช้มาตรการปิดเมืองในเขตที่ใหญ่ที่สุด รวมทั้งระงับการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และประชาชนต้องแสดงผลตรวจเป็นลบก่อนออกจากบ้าน
วันที่ 23 พ.ย.65
แม้จีนจะไม่ได้สั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ และผ่อนคลายมาตรการที่เคยใช้ลงมาหลายอย่าง แต่เนื่องจากแนวโน้มการติดเชื้อใหม่ที่กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในหลายเมือง ทำให้รัฐบาลกลางมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสั่งล็อกดาวน์พื้นที่ของตัวเอง หากว่าพบกรณีการติดเชื้อ แม้จะเจอแค่ไม่กี่รายเท่านั้น
นอกจากนี้ จะมีการเรียกคนจำนวนมากที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับผู้ติดเชื้อมาตรวจโควิด ใครที่ติดเชื้อก็ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน หรือไม่ก็ไปอยู่ในสถานที่กักตัวที่รัฐเป็นผู้ควบคุม ธุรกิจและโรงเรียนในพื้นที่นั้นก็ต้องปิดทำการด้วย ยกเว้นร้านขายอาหาร มาตรการดังกล่าวจะถูกบังคับใช้ จนกว่าจะไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่อีก
ในวันเดียวกันนี้ คนงานในโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป (Foxconn Technology Group) ในเมืองเจิ้งโจว พากันหลั่งไหลออกจากหอพักในช่วงเช้าตรู่ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการกักตัว เนื่องจากพวกเขาถูกกักตัวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม หลายคนไม่ได้รับค่าจ้างและกังวลเกี่ยวกับการระบาดที่ขยายเป็นวงกว้าง เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีจำนวนมากกว่า การกักตัวคนงานและการประท้วงที่ยืดเยื้อทำให้คาดว่า ยอดผลิตไอโฟนจากจีนจะขาดหายไปราว 6 ล้านเครื่อง ณ สิ้นปีนี้
วันที่ 24 พ.ย. 65
เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ส่วนใหญ่ถูกห้ามไม่ให้ออกจากบ้านของตัวเองภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิดที่บังคับใช้มาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม พวกเขาโทษว่าข้อจำกัดของทางการกลายเป็นสิ่งกีดขวางการหนีไฟของเหยื่อไฟไหม้ครั้งนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวจุดชนวนความโกรธแค้นไม่พอใจรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่บังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดอย่างเข้มงวดและเหวี่ยงแห จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในวงกว้าง
วันที่ 26 พ.ย.65
การประท้วงแสดงความไม่พอใจมาตรการของรัฐบาลประทุขึ้นในเมืองอุรุมชีและหลายเมืองใหญ่ ทั่วประเทศรวมทั้งปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ อู่ฮั่น เฉิงตู ซีอาน และนานกิง ขณะที่ทางการจีนสั่งปิดกั้นอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด และได้เซ็นเซอร์การพูดถึงการประท้วงในเมืองอุรุมชีด้วย
วันที่ 28 พ.ย.65
เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่ร้อนระอุ รัฐบาลจีนได้ผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลงบางส่วน โดยทางการกรุงปักกิ่ง ประกาศยกเลิกการตั้งสิ่งกีดขวางทางเข้าอพาร์ทเมนท์ที่มีผู้ติดเชื้อโควิดอยู่ภายใน ส่วนเมืองกว่างโจว ประกาศงดการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบครอบคลุมครั้งใหญ่สำหรับประชาชนในวงกว้าง ขณะที่เมืองอุรุมชี ประกาศเปิดตลาดสดและอนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดทำการ
นักวิเคราะห์ระบุว่า ถึงแม้ทางการจีนจะผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวดลงมา แต่เชื่อว่ารัฐบาลยังไม่มีแนวโน้มที่จะยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid) ในอนาคตอันใกล้
วันที่ 29 พ.ย.65
การประท้วงต่อต้านนโยบายควบคุมโควิดที่เข้มงวดของจีนรวมถึงการจำกัดเสรีภาพในการล็อคดาวน์ ได้แพร่กระจายไปยังเมืองต่างๆ ทั่วโลกอย่างน้อย 12 เมือง รวมทั้งลอนดอน ปารีส โตเกียว และซิดนีย์
ในวันเดียวกันนั้น คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนแถลงว่า จะเร่งผลักดันการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น สถานพยาบาล และจะสั่งการให้ผู้ที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนชี้แจงเหตุผลต่อเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ รัฐบาลจีนจะใช้ข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data ในการค้นหาผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน เนื่องจากทางการกำลังขับเคลื่อนมาตรการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุทั่วประเทศเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด
หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร อุปสรรคยังมีอยู่