อาลัย ‘ปาโก ราบานน์’ เทพแห่งแฟชั่นและน้ำหอม เสียชีวิตด้วยวัย 88 ปี  

03 ก.พ. 2566 | 21:02 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.พ. 2566 | 00:38 น.

ดีไซเนอร์ชาวสเปน ‘ปาโก ราบานน์’ ผู้สร้างสรรค์แบรนด์เสื้อผ้าและน้ำหอมในชื่อเดียวกันนี้ เสียชีวิตอย่างสงบที่ประเทศฝรั่งเศสด้วยวัย 88 ปี ทิ้งไว้เพียงตำนานแฟชั่นที่น่าจดจำ

 

โฆษกของ บริษัท พุช (Puig) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์แฟชั่นและน้ำหอมแถวหน้าของสเปน “ปาโก ราบานน์” (Paco Rabanne) ยืนยันการเสียชีวิตของปาโก ราบานน์ ดีไซเนอร์คนดังผู้สร้างสรรค์แบรนด์ดังกล่าว โดยระบุว่า ราบานน์ จากไปอย่างสงบที่บ้านพักของเขาในประเทศฝรั่งเศสวานนี้ (3 ก.พ.) ด้วยวัย 88 ปี “เขาได้สร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นในแต่ละยุคสมัยด้วยวิสัยทัศน์ทางแฟชั่นที่แตกต่างไปจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง และสิ่งนี้จะเป็นมรดกตกทอดอันเป็นอมตะตลอดกาล”

โฆเซ่ มานูเอล อัลเบซา ประธานฝ่ายแฟชั่นของพุช กล่าวถึงสไตล์แฟชั่นของราบานน์ว่า ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร เป็นกบฏแห่งขนบแฟชั่นที่ทำให้แบรนด์ของเขาแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์

 

ปาโก ราบานน์ วัยหนุ่ม กับนางแบบในชุดตัดเย็บด้วยแผ่นโลหะและพลาสติก

“จะมีใครอื่นถ้าไม่ใช่ราบานน์ ที่สามารถจูงใจสาวปารีเซียงที่ชื่นชอบในแฟชั่น ให้หันมาสวมใส่ชุดเดรสที่ทำจากพลาสติกและชิ้นโลหะ ดีไซน์ที่ดูแรง ดูขบถแบบนี้ ทำให้ราบานน์แตกต่างจากคนอื่น ราบานน์นั้นมีหนึ่งเดียว”  

ขณะที่มาร์ก พุช ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของพุช กล่าวอาลัยว่า ปาโก ราบานน์ เป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพโดดเด่นในวงการแฟชั่น สุนทรียะและความงามที่ถ่ายทอดผ่านผลงานแฟชั่นของราบานน์สะท้อนวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญ กล้าแสดงออก เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการปฏิวัติ และปลุกเร้า   

อินสตาแกรมของแบรนด์ปาโก ราบานน์ ยกย่องดีไซเนอร์ผู้นี้ว่า ผลงานของเขาจะเป็นมรดกตกทอดที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนต่อไปไม่เสื่อมคลาย

ปาโก ราบานน์ ผู้ฉีกขนบแฟชั่น

ประวัติโดยสังเขป : จากเด็ก 'ถาปัตย์สู่โลกแฟชั่น

ปาโก ราบานน์ (Paco Rabanne) หรือชื่อเดิมว่า ฟรานซิสโก ราบาเนดา-เควโบ (Francisco Rabaneda-Cuervo) เกิดที่ประเทศสเปนเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2477  ที่มาของชื่อ “ปาโก ราบานน์” นั้น เป็นการตัดทอนชื่อและสกุลเดิมให้เรียกง่ายและเป็นที่จดจำง่ายขึ้นด้วย เมื่อตอนเป็นเด็ก ในยุคที่นายพลฟรังโกเข้ามายึดครองอำนาจในสเปน ครอบครัวของเขาถูกบังคับให้อพยพไปยังสหภาพโซเวียต และไม่กี่ปีต่อมาพวกเขาก็ย้ายไปฝรั่งเศส ที่ซึ่งราบานน์ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวิจิตรศิลป์แห่งชาติ (ปารีส) ในปี 2495 เอกทางด้านสถาปัตยกรรม

ในระหว่างการศึกษาที่กรุงปารีส นครแห่งสำนักตักศิลาด้านแฟชั่นนี้เองที่ราบานน์ได้เริ่มออกแบบและผลิตรองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับ ให้กับนักออกแบบแฟชั่นชาวฝรั่งเศส เขาทำงานที่ House of Balenciaga (ผู้ผลิตแบรนด์ Balenciaga) และ Hubert de Givenchy (แบรนด์ Givenchy) จากนั้นก็ไปคว้าประสบการณ์สำคัญที่สุดที่ Christian Dior Fashion House (คริสเตียน ดิออร์) ที่ซึ่งเขาได้มีโอกาสแสดงคอลเลคชันเสื้อผ้าชุดแรกในปี 2509 ภายใต้ชื่อผลงาน “โมเดลทดลองและสวมใส่ไม่ได้ 12 แบบจากวัสดุสมัยใหม่”

ราบานน์พยายามใช้พลาสติกและโลหะให้เกิดประโยชน์สูงสุดมาทำเป็นชุดเดรสที่แวววาวระยิบระยับ มันอาจสวมใส่ได้ไม่สบายตัวนัก แต่ก็ดึงดูดสายตาเป็นอย่างมาก  ผลงานดังกล่าวแม้จะดูแตกต่างและฉีกจากขนบแฟชั่น แต่ก็ได้รับความชื่นชม

ในเวลาต่อมา ราบานน์ยังสร้างผลงานแฟชั่นที่ดึงดูดความสนใจมากยิ่งขึ้น ผ่านผ้าและลูกไม้โลหะที่เขาประดิษฐ์ขึ้น หมวกเสาอากาศ ชุดเดรสกระดาษ และส่วนผสมต่างๆ ของพลาสติก หนัง รวมทั้งอลูมิเนียม จนกระทั่งในปี 2510 ปาโก ราบานน์ ก็มีห้องเสื้อของตัวเองในกรุงปารีส

 

ชุดเดรสที่โดดเด่นด้วยวัสดุของปาโก ราบานน์

ปี 2511 เขาได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมเป็นแบรนด์หนึ่งในเครือพุช (Puig) ทำให้มีการขยายไลน์สินค้ามาสู่น้ำหอมด้วย ทั้งนี้ น้ำหอมกลิ่นแรกของปาโก ราบานน์ มีชื่อว่า "Calandre"

หลังจากนั้น ก็ยังมีน้ำหอมกลิ่นใหม่ ๆ ตามมา เช่น PacoRabanne PourHomme (1973) Metal (1979) LaNuit (1985) Sport (1986) Tenere (1988) XS (Excess Pour Homme) (1993) โดย XS เป็นหนึ่งในน้ำหอมผู้ชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

XS เป็นหนึ่งในน้ำหอมผู้ชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของปาโก ราบานน์

ต่อมาปาโก ราบานน์ ยังออกแบบและผลิตนาฬิกา Paco Rabanne ออกมาวางจำหน่ายอีกด้วย

เขาวางมืออำลาวงการแฟชั่นในปี 2542 ขณะอายุ 64 ปี หลังจากนั้นในช่วง 24 ปีต่อมา ก็แทบจะไม่ได้ปรากฏตัวออกสื่ออีกเลย จนกระทั่งวันที่ 3 ก.พ.2566 โลกได้รับรู้ว่า ปาโก ราบานน์ ได้จากไปแล้วและทิ้งไว้เพียงตำนานแฟชั่นสุดล้ำที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง