ธนาคารกลางยูเครน พิมพ์ ธนบัตร มูลค่า 20 ฮริฟเนีย (hryvnia ซึ่งเป็นสกุลเงินตราของ ยูเครน) นำออกเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสฯ (23 ก.พ.) ซึ่งเป็น 1 วันก่อนวันครบรอบ 1 ปี การบุกยูเครนของ กองทัพรัสเซีย ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565
ธนบัตรดังกล่าวเป็นสีฟ้าและสีเหลืองจางๆ ด้านหน้าเป็นภาพนายทหาร 3 นายกำลังชูธงชาติยูเครนซึ่งเป็นแถบ 2 สี ด้านบนเป็นแถบสีฟ้า ด้านล่างเป็นแถบสีเหลือง
และเมื่อพลิกดูด้านหลังธนบัตร จะเห็นภาพสองมือของมนุษย์ถูกมัดไพล่กันพันไว้ด้วยเทป ซึ่งภาพนี้มีความหมายถึงการก่ออาชญากรรมสงครามของรัสเซียในดินแดนของยูเครน ซึ่งข้อกล่าวหานี้ รัฐบาลรัสเซียได้ปฏิเสธมาตลอด
ถ้อยแถลงของนายแอนดรีย์ พิชนีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางยูเครน ระบุว่า การออกธนบัตรที่ระลึกนี้เพื่อรำลึกวาระครบรอบ 1 ปีแล้วที่ยูเครนตกอยู่ภายใต้การรุกรานของรัสเซีย ภาพที่ปรากฏบนธนบัตรซึ่งเป็นกระดาษชิ้นเล็ก แต่ได้บันทึกภาพรวมของ 1 ปีเต็มๆ ที่เปี่ยมไปด้วยหลากอารมณ์ความรู้สึก เนื้อหาเรื่องราว และหลายสิ่งที่จะเป็นที่จดจำต่อไป
ในส่วนของธนาคารกลางเอง ตั้งแต่ที่การบุกรุกเต็มรูปแบบของรัสเซียเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ปีที่แล้ว ก็ได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการที่จะรักษาเสถียรภาพและประคองเศรษฐกิจของยูเครนให้ไปให้รอด
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่าน แบงก์ชาติยูเครนได้ตรึงค่าเงินฮริฟเนียไว้กับดอลลาร์สหรัฐ ที่ 36.57 ฮริฟเนียต่อ 1 ดอลลาร์ และมีการเข้าแทรกแซงอย่างสม่ำเสมอเพื่อประคับประคองค่าเงินดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือของพันธมิตรชาติตะวันตกซึ่งคิดเป็นวงเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เศรษฐกิจยูเครนอยู่รอดมาได้ และสกุลเงินที่เชื่อถือได้ในทุนสำรองของยูเครนก็เพิ่มขึ้นมาจนเกือบแตะระดับ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับว่ามากกว่าเมื่อครั้งที่เคยมีตอนช่วงต้นของสงคราม
ข่าวระบุว่า ธนบัตร 20 ฮริฟเนียที่มีการพิมพ์ออกมาในครั้งนี้ จะพิมพ์ออกมาจำนวนทั้งสิ้น 300,000 ใบ มีการใส่ฟีเจอร์ใหม่รักษาความปลอดภัยเอาไว้ด้วย ส่วนระยะเวลาการออกแบบ ใช้ไปทั้งสิ้น ประมาณ 8 เดือน นอกจากล็อตนี้แล้ว ทางธนาคารกลางเปิดเผยว่า ยังจะออกธนบัตรที่ระลึกรุ่นต่อไปออกมาอีกเพื่อเป็นเสมือนการบันทึกสถานการณ์สงครามครั้งนี้เอาไว้ในรูปแบบของรูปภาพบนธนบัตร
ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังออกแบบเผื่อไว้แล้ว สำหรับธนบัตรที่จะเป็นที่ระลึกแห่งชัยชนะ และการฟื้นฟูบูรณะยูเครนหลังสงครามจบลง
ผู้ว่าแบงก์ชาติยูเครนกล่าวทิ้งท้ายว่า ในระหว่างขวบปีที่ผ่านมา ชาวยูเครนตระหนักดีถึงพลัง ความสำคัญ และความสามารถของพวกเขาเอง ที่ไม่เพียงจะยืนหยัดท่ามกลางความยากลำบาก แต่ยังจะสามารถมีชัยเหนือศัตรูโดยไม่ต้องสร้างอาชญากรรมทางทหารแม้สักครั้งเดียว
“ชัยชนะนี้ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงมาก แต่มันจะเกิดขึ้นและจะเป็นชัยชนะของฝ่ายเรา”