การส่ง จรวดสำรวจ ลำล่าสุดของ ยุโรป ขึ้นสู่ห้วงอวกาศเพื่อปฏิบัติภารกิจ สำรวจดาวพฤหัสและดวงจันทร์บริวาร นี้เกิดขึ้นที่ฐานปล่อยในเฟรนช์กีอานา (French Guiana) ซึ่งเป็นจังหวัดโพ้นทะเลของฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางเหนือของทวีปอเมริกาใต้ เมื่อวันศุกร์ที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่า จรวดลำดังกล่าวมีชื่อว่า จูปิเตอร์ ไอซี มูน เอ็กพลอเรอร์ (Jupiter Icy Moon Explorer) บรรทุกหุ่นยนต์สำรวจ ที่มีชื่อว่า จูซ (Juice) ซึ่งเป็นชื่อเล่นของจรวดลำนี้ไปด้วย
ภารกิจครั้งนี้จะใช้เวลาถึง 8 ปีสำหรับการเดินทางไปถึงดาวพฤหัส ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล นอกจากนี้ การสำรวจยังจะครอบคลุมถึง ดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัสอีก 3 ดวง มีชื่อว่า
แต่ละดวงมีลักษณะถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งทั้งดวง แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ใต้พื้นผิวน้ำแข็งในดวงจันทร์ทั้ง 3 ดวงนี้ คือ มหาสมุทรซึ่งมีสิ่งมีชีวิตทางทะเลอาศัยอยู่
รายงานข่าวระบุว่า หุ่นสำรวจจูซ (Juice) จะพยายามเข้าไปในวงโคจรรอบ ๆ ดวงจันทร์แกนิมีด ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่มียานอวกาศใด ๆ ทำมาก่อน ทั้งนี้ การที่ดาวพฤหัสมีดวงจันทร์บริวารอยู่มากมาย โดยมีการนับได้ล่าสุดทั้งหมด 95 ดวง นักดาราศาสตร์จึงมองว่า การจะเรียกว่า ดาวพฤหัสนี้คือระบบสุริยะขนาดเล็ก ก็เป็นสิ่งที่ไม่ผิดนัก
นายโอลิวิเยร์ วิตาส นักวิทยาศาสตร์ของโครงการสำรวจนี้จากองค์การอวกาศยุโรป หรือ อีเอสเอ (European Space Agency) เปิดเผยว่า “เราจะไม่ทำการสำรวจหาสิ่งมีชีวิตด้วยหุ่นสำรวจ Juice แต่การเรียนรู้เกี่ยวกับดวงจันทร์เหล่านี้ และความน่าจะเป็นที่ว่า มีทะเลซ่อนอยู่ใต้พื้นผิวน้ำแข็ง คือ สิ่งที่จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใกล้คำตอบที่ว่า มีสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อยู่นอกโลกหรือไม่ มากขึ้น”
ในส่วนของดวงจันทร์แกนิมีดนี้ สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ นี่ไม่เพียงเป็นดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของดาวพฤหัส แต่ดวงจันทร์นี้ ยังมีขนาดใหญ่กว่าดาวพุธเสียอีก ทั้งยังมีสนามแม่เหล็กของตนเอง และมีแสงออโรราสุกใสทั้งที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ของดวงจันทร์ด้วย
สกอตต์ เชพเพิร์ด จากสถาบันคาร์เนกี (Carnegie Institution) ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการสำรวจดาวพฤหัสนี้ ให้ความเห็นว่า นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ปริมาณน้ำในมหาสมุทรของดวงจันทร์ดวงนี้ มีมากกว่าน้ำบนโลกของเราด้วย เช่นเดียวกับบนดวงจันทร์ยูโรปา ที่มีผู้อ้างว่า พบเห็นน้ำพุร้อนบนดวงจันทร์นี้ รวมทั้ง สภาพพื้นผิวที่มีปล่องภูเขาไฟมากมายบนดวงจันทร์คัลลิสโต ที่ล้วนให้ความหวังว่า จะสามารถเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ได้
หุ่นสำรวจ Juice มีกำหนดทำภารกิจสำรวจดวงจันทร์ ยูโรปา คัลลิสโต และกานิมีด เป็นเวลา 3 ปี หลังเดินทางถึงดาวพฤหัสในปีค.ศ. 2031 เป็นอย่างเร็ว โดยในช่วงปลายปี 2034 หุ่นสำรวจนี้จะพยายามเข้าไปในวงโคจรของแกนิมีด และบินรอบดวงจันทร์นี้เป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่ผู้ควบคุมการบินจะสั่งให้ยานนี้บินลงพุ่งชนพื้นผิวดวงจันทร์ดังกล่าวนี้ในปี 2035 ถ้าหากยังมีเชื้อเพลิงเหลือพอ
หากหุ่นสำรวจ Juice ยืนยันได้ว่า มีมหาสมุทรอยู่ใต้ผิวน้ำแข็งของดวงจันทร์เหล่านี้ที่เอื้อให้มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ โอลิวิเยร์ วิตาส หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ของโครงการสำรวจนี้จาก ESA กล่าวว่า จะมีการส่งยานขุดเจาะไปลองขุดผิวน้ำแข็งดู หรือไม่ก็อาจมีการส่งเรือดำน้ำไปด้วย ในลำดับต่อไป