รัสเซียเกณฑ์ทหารเพิ่ม 4 แสนนาย อัดฉีดรางวัลร่วมรบในยูเครน
กลาโหมอังกฤษระบุรายงานข่าวกรองฉบับล่าสุดที่เผยว่า รัสเซียกำลังมองหา“คนจริง” มาช่วยร่วมรบในสงครามยูเครน โดยมีการเปิดตัวโฆษณาเชิญชวนชายรัสเซียพร้อมรางวัลจูงใจ
รายงาน ข่าวกรองของอังกฤษ เปิดเผยโดยกระทรวงกลาโหมวานนี้ (23 เม.ย.) ระบุถึง โฆษณาชุดใหม่ของรัสเซีย ที่นำเสนอเงินรางวัลต่าง ๆ สำหรับผู้ที่สมัครใจเข้าร่วมกองทัพเพื่อพิชิตศึกยูเครน แต่กระนั้น ความน่าจะเป็นที่รัฐบาลเครมลินจะสามารถเกณฑ์ทหารเพิ่มให้ถึงเป้าหมาย 400,000 นายได้นั้น “ไม่น่าจะเป็นไปได้มากนัก”
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยูเครนได้ประกาศมาตรการลงโทษชุดใหม่ต่อบุคคลและองค์กรต่าง ๆ ที่สนับสนุนหรือลงทุนในการรุกรานของรัสเซีย
โดยนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ระบุในแถลงการณ์ประจำวันเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 เม.ย.) ว่า กรุงเคียฟได้ทำการลงโทษบริษัท 322 แห่งที่ผลิตอาวุธและชิ้นส่วนสำหรับการใช้งานทางการทหารให้กับกองทัพรัสเซียเพื่อใช้รุกรานยูเครน และยังได้ดำเนินมาตรการลงโทษเพิ่มเติมต่อบุคคลและนิติบุคคลที่ช่วย(เครมลิน)หลบหลีกการลงโทษต่อรัสเซียด้วย
“ภารกิจของเราก็คือการขจัดโอกาสใด ๆ ก็ตามที่จะช่วยรัสเซียหลบหลีกการลงโทษ” และว่า “ยิ่งมาตรการลงโทษต่อเศรษฐกิจยามสงครามของรัสเซียรุนแรงมากขึ้นเท่าใด การยุติการรุกรานก็จะเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นเท่านั้น”ผู้นำยูเครนกล่าว
อย่างไรก็ดี มาตรการลงโทษต่าง ๆ จากชาติตะวันตกต่อรัสเซียที่ผ่านมาไม่ได้สั่นคลอนความมั่งคั่งของอภิมหาเศรษฐีรัสเซียแม้แต่น้อย
ในบรรดารายชื่ออภิมหาเศรษฐีโลกที่จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) มีการระบุว่า ความมั่งคั่งของอภิมหาเศรษฐีในรัสเซียนั้นเพิ่มขึ้นถึงระดับ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ (2566) ขณะเดียวกันตัวเลขผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่ำรวยระดับดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน (2565) ถึง 22 คน เป็น 110 คนแล้ว โดยตัวเลขนี้ยังไม่ได้นับรวมชาวรัสเซียที่มีฐานะร่ำรวยมหาศาลที่สละสัญชาติรัสเซียไปแล้วด้วย
นิตยสาร Forbes ชี้ว่า ข้อมูลล่าสุดนี้ ขัดแย้งอย่างมากกับมาตรการลงโทษสำคัญ ๆ ของชาติตะวันตกและสภาพเศรษฐกิจรัสเซียที่มีปัญหาและหดตัว 2.1% ในปีที่ผ่านมา
สงครามยังยืดเยื้อ รัสเซียเดินหน้ายิงขีปนาวุธถล่ม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลของเจ้าหน้าท้องถิ่นว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 5 ลูกเข้าใส่เมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกของยูเครน และพื้นที่ที่อยู่ติดกันเมื่อช่วงดึกของคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 เม.ย.) ทำให้อาคารที่พักของพลเรือนบางส่วนเสียหาย
นายโอเลห์ ซิเนกูบอฟ ระบุในโพสต์ทางแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า ขีปนาวุธ 1 ลูกทำลายบ้าน 1 หลังในหมู่บ้านคอตลิอารี ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองคาร์คิฟ และขีปนาวุธอีกลูกทำให้เกิดไฟไหม้หนักในเมืองนี้ด้วยขณะเดียวกัน ที่เมืองเบลโกรอด ซึ่งอยู่อีกฝั่งของเส้นเขตแดนในรัสเซีย ประชาชนอย่างน้อย 1,300 คนเดินทางกลับเข้าบ้านเรือนของตน หลังลี้ภัยออกไปก่อนหน้านี้เพื่อเปิดทางให้ผู้เชี่ยวชาญของกองทัพเข้าพื้นที่ไปกู้ระเบิดซึ่งเครื่องบินรบรัสเซียยิงใส่โดยไม่ตั้งใจเมื่อวันพฤหัสบดี (20 เม.ย.)ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน
ขับนักการทูตเยอรมันออกนอกประเทศ
รัสเซียประกาศเมื่อวันเสาร์ (22 เม.ย.) ว่า รัฐบาลมอสโกได้ขับนักการทูตกว่า 20 คนของเยอรมนีออกนอกประเทศไปแล้ว โดยสื่อ RIA Novosti ของทางการรัสเซียระบุว่า การตัดสินใจของทำเนียบเครมลินในครั้งนี้เป็นการตอบโต้เยอรมนีที่ขับไล่นักการทูตกว่า 20 คนของรัสเซียเมื่อเร็ว ๆ นี้
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีรายหนึ่งกล่าวกับรอยเตอร์ว่า ทั้งเยอรมนีและรัสเซียพยายามลดจำนวนเจ้าหน้าที่ของตนมาระยะหนึ่งแล้ว โดยฝ่ายตนตั้งเป้าที่จะลดปฏิบัติการด้านข่าวกรองของรัสเซียในเยอรมนี ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า
“ทางการเยอรมันตัดสินใจทำการขับไล่ลูกจ้างของหน่วยงานด้านการทูตของรัสเซียในเยอรมนีจำนวนมาก” ดังนั้น รัสเซียขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำเหล่านี้ของรัฐบาลเบอร์ลิน ซึ่งยังผลให้เกิดความเสียหายอย่างชัดแจ้งต่อความสัมพันธ์โดยรวมระหว่างรัสเซียและเยอรมนี