รายงานของสถาบันคลังสมองในสวีเดนเผยแพร่วานนี้ (24 เม.ย.)ระบุว่า มูลค่าการใช้จ่ายด้านกลาโหม ทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา (2565) เพิ่มขึ้น 8 ปีติดต่อกัน และอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็น สถิติใหม่ ด้วยมูลค่าสูงถึง 2.24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 76.9 ล้านล้านบาท โดยสถานการณ์ สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน เป็นปัจจัยที่มีส่วนผลักดันแนวโน้มดังกล่าว
สถาบันวิจัยเพื่อสันติภาพสากลแห่งสต็อกโฮล์ม (Stockholm International Peace Research Institute หรือ SIPRI)ซึ่งตั้งอยู่ที่สวีเดน เปิดเผยว่า ในส่วนของยุโรปมีการใช้จ่ายด้านกลาโหมเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา เนื่องจากสงครามในยูเครน คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 13% เทียบกับมูลค่าการใช้จ่ายทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อปีที่แล้ว
"ความช่วยเหลือทางการทหารให้แก่ยูเครน และความกังวลต่อภัยคุกคามจากรัสเซีย ส่งผลอย่างมากให้หลายประเทศเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหาร" รายงานระบุ
SIPRI ชี้ว่า เมื่อปี 2565 ประเทศที่มีการใช้จ่ายด้านการทหารมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ
ซึ่งมีมูลค่างบกลาโหมรวมกันเท่ากับ 56% ของการใช้จ่ายด้านการทหารทั่วโลก
นัน เทียน นักวิจัยโครงการค่าใช้จ่ายด้านการทหารและการผลิตอาวุธของ SIPRI เชื่อว่า "การเพิ่มขึ้นนี้คือสัญญาณว่าเราใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่มีความไม่มั่นคงมากขึ้น"
ประเทศที่มีค่าใช้จ่ายทางการทหารเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา คือประเทศที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย ได้แก่
ทั้งฟินแลนด์และสวีเดนต่างสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ในปีที่ผ่านมา ถือเป็นการละทิ้งจุดยืนความเป็นกลาง (ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดทางการทหาร) ซึ่งใช้มานานหลายสิบปี โดยฟินแลนด์ได้รับการรับรองเข้าเป็นสมาชิกของนาโตไปแล้วเมื่อเร็วๆนี้ ในขณะที่สวีเดนยังคงถูกคัดค้านจากตุรกีและฮังการี
ลอเรนโซ สคาแรซซาโต นักวิจัยของ SIPRI กล่าวว่า เหตุการณ์ที่รัสเซียส่งกำลังทหารรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565 ส่งผลให้การใช้จ่ายด้านการทหารของประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ความกังวลต่อความก้าวร้าวของรัสเซียก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน
"ประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตในฝั่งยุโรปตะวันออก ต่างเพิ่มงบประมาณด้านการทหารมากกว่าสองเท่านับตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่รัสเซียควบรวมแคว้นไครเมียในยูเครนเป็นของตน" นักวิจัยผู้นี้ระบุ
รายงานของ SIPRI ชี้ว่า รัสเซียเองก็เพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารราว 9.2% ในปีที่ผ่านมา สู่ระดับ 86,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเท่ากับ 4.1% ของมูลค่าจีดีพีของรัสเซียในปีเดียวกัน นับเป็นการเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนเพียง 3.7% ในปีก่อนหน้านั้น