รัสเซีย ถล่มขีปนาวุธชุดใหญ่ทั่ว ยูเครน ก่อนหน้าเทศกาล “วันแห่งชัยชนะ” 9 พ.ค. ซึ่งเป็นวันฉลองชัยชนะของอดีตสหภาพโซเวียตเหนือกองทัพนาซี ขณะ กลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ยันบุกต่อในภูมิภาคบาคห์มุตหลังได้รับอาวุธสนับสนุนจากรัสเซีย สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ออกโรงเตือนการสู้รบใกล้พื้นที่ ทำให้ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ “ซาปอริซเซีย” ไม่ปลอดภัย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนเปิดเผยวันนี้ (8 พ.ค.) ว่า กองทัพรัสเซียได้ระดมยิงขีปนาวุธชุดใหญ่ใส่กรุงเคียฟและพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วยูเครน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างและทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่ในกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย กำลังเตรียมเฉลิมฉลอง "วันแห่งชัยชนะ" 9 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่อดีตสหภาพโซเวียตสามารถพิชิตกองทัพนาซีได้ในปีค.ศ. 1945 (พ.ศ.2488) ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2จะยุติลง
เจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 ราย จากการโจมตีกรุงเคียฟ นอกจากนี้ ขีปนาวุธของรัสเซียยังได้เผาทำลายโกดังเก็บอาหารในเมืองโอเดสซา ซึ่งเป็นเมืองท่าตั้งอยู่ติดทะเลดำ และมีรายงานว่าเกิดการระเบิดขึ้นเป็นจำนวนมากในหลายภูมิภาคของยูเครานวานนี้ (7 พ.ค.)
การโจมตีระลอกล่าสุดนี้ มีขึ้นในขณะที่รัสเซียเตรียมจัดขบวนเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะในวันอังคาร (9 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองที่สำคัญซึ่งคาดว่านายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย จะปลุกจิตวิญญาณของกองทัพรัสเซียให้ฮึกเหิมเพื่อคว้าชัยชนะเหนือยูเครน เฉกเช่นที่กองทัพโซเวียตเคยเอาชนะนาซีเยอรมันมาแล้ว โดยปูตินเคยกล่าว่า ยูเครนในปัจจุบันนั้น ตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของลัทธินาซีเกิดใหม่
ด้านนายพลอาวุโสของยูเครนที่บัญชาการการรบในเมืองบาคห์มุตที่ถูกปิดล้อมโดยกลุ่มนักรบรับจ้างของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียทวีความรุนแรงในการยิงกระสุนปืนใหญ่ถล่มเมืองบาคห์มุต ด้วยความคาดหวังว่าจะสามารถยึดเมืองให้ได้ภายในวันอังคาร หลังจากที่ทางกลุ่มทหารรับจ้างของรัสเซีย ที่เรียกชื่อว่า กลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ เคยแสดงท่าทีว่าจะถอนทหารออกจากเมืองนี้เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากรัสเซีย แต่ล่าสุดทางกลุ่มกลับลำยืนยันว่าจะรบต่อในเมืองดังกล่าวเนื่องจากได้รับความสนับสนุนด้านกระสุนปืนมาแล้วตามที่ร้องขอไป
นายวิทาลี คลิทช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เปิดเผยว่า มีผู้บาดเจ็บ 3 รายจากเหตุระเบิดในเขตโซโลเมียนสกี และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย จากซากโดรนที่ถูกยิงตกลงมาในเขตสเวียโตชี โดยทั้งสองเขตดังกล่าว ตั้งอยู่ทางตะวันตกของใจกลางเมืองหลวงเคียฟของยูเครน
ทั้งนี้ หน่วยงานทางทหารของยูเครนระบุว่า ซากโดรนตกลงบนรันเวย์ของสนามบินซูเลียนนี ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินพลเรือนสองแห่งของกรุงเคียฟ แต่ซากโดรนดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ และหน่วยงานฉุกเฉินกำลังปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว
ผอ.IAEA เตือนภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย
นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (UN) ออกโรงเตือนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 พ.ค.) ว่า สถานการณ์รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ของยูเครนที่ปัจจุบันถูกรัสเซียยึดครองเอาไว้นั้น มีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โดยรอบ "คาดเดาไม่ได้มากยิ่งขึ้นและอาจเกิดอันตราย" พร้อมกันนี้ IAEA ได้เรียกร้องให้มีการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อรับประกันความปลอดภัยด้านการดำเนินงานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว
"สถานการณ์โดยรวมในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียนั้นคาดเดาไม่ได้มากยิ่งขึ้นและอาจเกิดอันตรายขึ้นได้" นายกรอสซีกล่าวบนเว็บไซต์ของ IAEA
"ผมวิตกกังวลอย่างสูงเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียกำลังเผชิญอยู่ โดยเราต้องดำเนินการในทันที เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองกำลังรัสเซียได้ยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งการให้ยกพลบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนก.พ. 2565
นายกรอสซีเองเคยเดินทางเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหารือกับรัสเซียและยูเครน เกี่ยวกับการทำข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยในการดำเนินงานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย แต่สถานการณ์การสู้รบในพื้นที่โดยรอบที่ยังคงทวีความรุนแรงทำให้การรับประกันความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าดังกล่าว เป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่ง