นางจูลี โคแซค โฆษก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าววานนี้ (12 พ.ค.) ว่า การผิดนัดชำระหนี้ ของสหรัฐอเมริกา หากเกิดขึ้นจริง ก็จะส่ง ผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อเศรษฐกิจสหรัฐเองและ เศรษฐกิจโลก ในภาพรวมด้วย ทั้งยังจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดีดตัวสูงขึ้น
แม้ขณะนี้ IMF ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่ชัดเจนจากการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐที่จะมีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ก่อนหน้านี้ ตัวเลขการประเมินแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว โดย IMF คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการเติบโตที่ระดับ 2.8% ในปีนี้ (2566) แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า ภาวะผันผวนในตลาดการเงินอาจทำให้เศรษฐกิจโลกปีนี้ขยายตัวเพียง 1.0% เท่านั้น
นอกจากนี้ โฆษก IMF ยังเรียกร้องให้สหรัฐจับตาความเปราะบางในภาคการธนาคาร ซึ่งรวมทั้งธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐเอง ท่ามกลางสภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ประเด็นการผิดนัดชำระหนี้สาธารณะของสหรัฐกลายเป็นประเด็นที่คนทั่วโลกจับตามอง หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ออกมาเตือนเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐอาจต้องผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ภายในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ซึ่งนับว่าเร็วกว่าที่คาด เนื่องจากหนี้ภาครัฐนั้นชนเพดานแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา และปัญหาสภาพคล่องก็จะทำให้กระทรวงการคลังไม่สามารถชำระหนี้ต่างๆ ภายใต้มาตรการพิเศษที่ถูกนำมาใช้เฉพาะหน้าได้อีกต่อไป
ในส่วนของความพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐนั้น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งเดิมมีกำหนดเจรจาหารือผ่าทางตันของปัญหาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 พ.ค.) ได้เลื่อนการเจรจาออกไปเป็นสัปดาห์หน้าแล้ว (อ่านเพิ่มเติม: “ทางออกเดียวที่ใช่ คือคองเกรสต้องเพิ่มเพดานหนี้”)