ประเด็นร้อนเรื่องการซื้อเครื่องบินของกองทัพอากาศกลับมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้กองทัพอากาศ เคย ถูกวิจารณ์เรื่องการของบประมาณช่วงที่ประเทศ เผชิญโควิด-19 รวมถึงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่โปร่งใส
สำหรับการจัดซื้อล่าสุดที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี คือ "เครื่องบินขับไล่ F-35" จากสหรัฐจำนวน 4 ลำ เป็นเงินในปีงบประมาณ 2566 ในราคา 1.38 หมื่นล้านบาท
เหตุผลของการจัดซื้อ คือ ฝูงบิน F-5 และ F-16 เก่าแล้วจำต้องหามาเปลี่ยน
ไทยต้องการรุ่น A หรือ F-35A ซึ่งแพงน้อยที่สุดในบรรดา 3 รุ่น โดยสามารถต่อรองราคาลงมา จากลำละราว 80 ล้านดอลลาร์ เหลือราว 70 ล้านดอลลาร์
ในขณะที่ "สวิตเซอร์แลนด์" ต้องจ่ายซื้อ F-35A จำนวน 36 ลำ ลำละ 112 ล้านดอลลาร์ และฟินแลนด์ซื้อ 64 ลำในราคาลำละ 83 ล้านดอลลาร์
จากเหตุผลทุกอย่าง ดูแล้วก็สมเหตุสมผลที่ ครม.จะอนุมัติให้กองทัพอากาศสั่งซื้อ แต่ประเด็นใหญ่เวลานี้คือ “สหรัฐจะขาย F-35 ให้เราหรือไม่”
สาเหตุสหรัฐ "ยังไม่อนุมัติ" การขาย F-35 ให้ไทย นักวิเคราะห์ คาดว่ามีเหตุผลดังนี้
1.นักวางแผนกลาโหมสหรัฐ ไม่มั่นใจว่า เมื่อไทยซื้อเครื่องบินไปแล้ว จะมีความพร้อมในการดูแลและบำรุงรักษาเครื่องบินได้เหมาะสมหรือไม่
2.ไทยมีสัมพันธ์ทางทหารใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น นับตั้งแต่รัฐประหาร 2557 จีนกลายเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่สุดให้กับไทย กองทัพไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศและเป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่ซ้อมรบประจำปีกับจีน ทั้ง 3 เหล่าทัพ
3.ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับไทยติดหล่มมาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็นเพราะไม่มีการรับรู้ภัยคุกคามร่วมกัน และกองทัพสหรัฐระงับความช่วยเหลือไทย หลังเกิดการรัฐประหารปี 2549 และ 2557
4.สหรัฐเกรงว่าจีนที่มีสายสัมพันธ์ทางทหารที่ใกล้ชิดกับและอยู่ในฐานะคู่แข่งสำคัญ จะ “เข้าถึงเทคโนโลยี” ที่ติดมากับ F-35
"แต่ไม่ใช่แค่ประเทศไทยประเทศเดียวที่สหรัฐไม่ขาย F-35 ให้ " ที่ผ่านมามีหลายประเทศที่สหรัฐปฏิเสธขาย เป็นที่น่าสังเกตว่าเพราะประเทศนั้นเคยมีความร่วมมือ หรือเคยสั่งซื้อขีปนาวุธใดๆจากจีน หรือรัสเซีย เช่น
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่ F-35 ตกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อ พ.ค. 2564 และทะเลจีนใต้ เมื่อ ม.ค. 2565 สหราชอาณาจักรและสหรัฐรีบเข้าไปกู้ เพื่อป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีตกไปอยู่ในมือของรัสเซียและจีน
ทั้งนี้ ถ้าสหรัฐปฏิเสธคำขอซื้อ น่าสนใจว่ากองทัพอากาศจะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างไร จะหันไปหารัสเซีย (SU-57 Checkmate) หรือจีน(FC-31 Gyrfalcon) หรือไม่ ต้องรอติดตาม