องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับตัวเลข คาดการณ์เศรษฐกิจโลก ในปีนี้ (2566) ว่าจะขยายตัวที่ 2.7% ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการคาดการณ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ระดับ 2.6% เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา จีน และเศรษฐกิจกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร (ยูโรโซน) ปรับตัวดีขึ้น แต่ยังถือว่าห่างไกลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกเมื่อปีก่อนหน้า (2565) ที่เติบโตถึง 3.3%
เมื่อดูเป็นรายประเทศ รายงานล่าสุดจาก OECD คาดการณ์ว่า
ขณะเดียวกัน OECD ได้หั่นเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจเยอรมนีว่าจะไม่มีการขยายตัวเลย ส่วนญี่ปุ่นถูกหั่นคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจมาที่ระดับ 1.3% ในปีนี้
เศรษฐกิจโลกกำลังก้าวผ่านจุดวิกฤตแล้ว แต่อย่าเพิ่งวางใจ
แคลร์ ลอมบาร์เดลลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ผู้เขียนรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจโลกของ OECD ชิ้นล่าสุดระบุว่า เศรษฐกิจโลกกำลังก้าวผ่านจุดวิกฤตแล้ว แต่ยังต้องเผชิญกับหนทางอันยาวไกลในการกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ทิศทางเงินเฟ้อทั่วโลกจะชะลอตัวกว่าปีก่อน แต่ทาง OECDได้เตือนว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงทั่วโลกยังส่งแรงสั่นสะเทือนในตลาดการเงินและตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ และเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับธนาคารกลางทั่วโลกในการรักษาสมดุลเชิงนโยบายเพื่อป้องกันผลกระทบในวงกว้าง
นอกจากนี้ OECD ยังจับตาประเด็นการขาดดุลงบประมาณและระดับหนี้ภาครัฐทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากการเยียวยาผลกระทบจากโควิดและผลพวงจากสงครามที่รัสเซียบุกยูเครน
“ในระหว่างที่การฟื้นตัว(ทางเศรษฐกิจ)เกิดขึ้น การสนับสนุนด้านนโยบายการคลังควรจะลดระดับลง และมุ่งเน้นให้ตรงจุดมากขึ้น”ลอมบาร์เดลลีกล่าว
สำหรับคาดการณ์เศรษฐกิจปีหน้า(2567) OECD ยังคงตัวเลขการขยายตัวเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.9%