จากการเปิดเผยของ บริษัทโอเชียนเกต เอ็กซ์พีดิชันส์ (OceanGate Expeditions)ระบุว่า เรือดำน้ำไททัน เป็นเรือดำน้ำขนาดเล็กประเภท submersible ซึ่งมีข้อจำกัดหลายประการ ไม่ได้มีระบบขับเคลื่อนแบบอิสระเหมือนเรือดำน้ำขนาดใหญ่ (submarine) สามารถใช้ความเร็ว 3 น็อต (5.56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ขณะอยู่ในน้ำ
ตัวเรือสร้างจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และไทเทเนียม ขับเคลื่อนด้วย 4 เครื่องยนต์ไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ติดตาม โซนาร์ และอุปกรณ์ระบุพิกัด
จากข้อมูลของบริษัท ชี้ว่า อุปกรณ์ระบุพิกัดจะเป็นไฟสีแดงซึ่งจะเปิดตลอด และสามารถค้นหาตำแหน่งเรือได้ตลอดเวลา สถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น ทีมค้นหาไม่พบสัญญาณระบุพิกัดดังกล่าว จึงเป็นไปได้ว่าระบบได้เกิดการขัดข้องแล้ว
ส่วนขนาดของเรือดำน้ำไททัน สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 5 คน ตามข้อมูลของทางบริษัท มีน้ำหนักโดยรวม 10,432 กิโลกรัม ความยาวลำเรือ 6.7 เมตร(22 ฟุต)
สามารถดำลงใต้ทะเลลึกสุด 13,123 ฟุต หรือราวๆ 4,000 เมตร (4 กิโลเมตรนั่นเอง)
เรือดำน้ำไททันมีอากาศออกซิเจนสำรองสำหรับการดำรงชีพของผู้โดยสาร 5 คน นานสุด 96 ชั่วโมงหรือ 4 วัน ปฏิบัติการค้นหาใช้เวลานับตั้งแต่ได้รับแจ้งเรือสูญหายมากว่า 3 วันแล้ว วินาทีนี้นับว่า อากาศในเรือเหลือน้อยเต็มที
กลไกรับมือมาตรการฉุกเฉินภายในเรือ
เรือดำน้ำขนาดเล็กนี้ (submersible) บางสื่อเรียกว่า "ยานดำน้ำ" เพราะมันแตกต่างจากเรือดำน้ำทั่วไป(submarine)
องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ ระบุว่า เรือดำน้ำ(submarine)สามารถเคลื่อนตัวสู่มหาสมุทรได้ด้วยตนเองจากท่าเรือ แต่ “ยานดำน้ำ”อย่างไททันนั้น มีพลังงานจำกัด ทำให้ต้องใช้เรือแม่เพื่อปล่อยยานลงน้ำและเก็บกู้ขึ้นมาและลากเข้าสู่ฝั่ง
เมื่อปีที่แล้ว เดวิด โปกิว ผู้สื่อข่าวจากสถานีข่าวซีบีเอส ได้เข้าร่วมในการเดินทางของโอเชียนเกตเพื่อไปชมซากเรือไททานิคด้วยเรือดำน้ำไททัน เขาได้รับแจ้งจากทางบริษัทว่า เรือไททันมีระบบความปลอดภัย 7 อย่าง ที่จะช่วยให้กลับขึ้นสู่ผิวทะเลได้ ซึ่ง ระบบความปลอดภัยเพื่อการนำยานขึ้นสู่ผิวทะเล 7 อย่าง ที่ว่านี้ ได้แก่
ผู้เชี่ยวชาญเรือดำน้ำกล่าวว่า หากเป็นเรือดำน้ำทางทหารทั่วไป มาตรการแรกหากเผชิญเหตุฉุกเฉินคือ "ขึ้นสู่ผิวน้ำฉุกเฉิน" ซึ่งมีหลายวิธีการ อาทิ ปล่อยน้ำหนักถ่วงฉุกเฉิน อัดอากาศไล่น้ำในตัวถังออก ไปจนถึงกระสวย (pod) ฉุกเฉินในกรณีเรือดำน้ำไม่สามารถลอยตัวขึ้นมาได้
แต่หากเป็นยานขนาดเล็กแบบเรือดำน้ำไททัน ทางเลือกที่จะทำได้ก็น่าจะจำกัดน้อยลงไปอีก